พิษพายุ “ฮาร์วีย์” ซัดสหรัฐพัง คาดมูลค่าความเสียหายศก. อาจสูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท

Christian Tycksen via REUTERS

คาดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากเหตุมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ถล่มเมืองฮุสตัน ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา อันเกิดจากฤทธิ์ของเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ อาจจะสูงถึง 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านล้านบาท โดยยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 35 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 17 ราย

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานผลการวิเคราะห์ของศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติและเทคโนโลยีลดความเสี่ยง (ซีอีดีไอเอ็ม) จากประเทศเยอรมนีที่เปิดเผยในวันนี้ (31 ส.ค.) ระบุว่า ความเสียหายจากอุทุกภัยครั้งใหญ่จากพายุฮาร์วีย์ที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่ อาจสูงถึง 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านล้านบาท ) จะทำให้พายุฮาร์วีย์เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลกนับตั้งแต่ปี 1900

ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์วิเคราะห์อื่นๆ ประเมินความเสียหายจากเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ไว้น้อยกว่า เช่น
ฮันโนเวอร์ รี บริษัทประกันของเยอรมนี ที่วิเคราะห์ความเสียหายไว้ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเจพี มอร์แกน วิเคราะห์ไว้ที่ราว 10,000-20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเอ็นกี โฮลดิงส์ วิเคราะห์ไว้ที่ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ วิเคราะห์ผ่านภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลที่ได้ ชี้ว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดจากมหาอุทกภัยจากเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ในพื้นที่ฮาร์ริส เคาน์ตี และกาลเวสทัน เคาน์ตี ในรัฐเท็กซัส อยู่ที่ประมาณ 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

พร้อมกันนั้น โรงกลั่นในรัฐเทกซัสและรัฐลุยเซียนา ซึ่งเคยมีกำลังผลิตวันละ 5.6 ล้านบาร์เรล และ 3.3 ล้านบาร์เรลตามลำดับ หลังได้รับผลกระท่วมจากพายุ “ฮาร์วีย์” ทำให้กำลังผลิตลดลงวันละ 3.6 ล้านบาร์เรล หรือราวร้อยละ 20 ของกำลังผลิตทั้งประเทศ อีกทั้งต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์กว่าจะฟื้นฟูได้หลังสถานการณ์กลับมาปกติ

มีการคาดการณ์ว่า ผลจากการปิดโรงกลั่นหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักนั้น จะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ทั้งนี้คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะราคาในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้