“ปารีส-เวเนฯ” ปะทะเดือดรับวันแรงงาน

เกิดเหตุประท้วงและเหตุปะทะรับวันแรงงานขึ้นในหลายที่ โดยที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองมายาวนานต่อเนื่องหลายเดือนก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลได้ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนที่ออกมาแสดงพลังเต็มท้องถนน

ทางการฝรั่งเศสระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 7,400 นาย เพื่อควบคุมความสงบ โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอ็ล มาครง ของฝรั่งเศส ได้สั่งการให้มีการจัดการกับสถานการณ์อย่างเด็ดขาดหากเกิดความรุนแรงขึ้น

เหตุปะทะในฝรั่งเศสเริ่มต้นขึ้นเมื่อกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซึ่งสวมหน้ากากดำปิดบังใบหน้าได้ฝ่าฝูงชนเข้ามาขว้างปาขวดและก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งตะโกนว่าทุกคนเกลียดตำรวจ เมื่อสถานการณ์วุ่นวายมากขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตอบโต้ด้วยการใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดสะเก็ดยางเพื่อสลายการชุมนุม

สื่อฝรั่งเศสรายงานว่ามีผู้ออกมาเดินขบวนในวันแรงงานราว 40,000 คน แต่สหภาพแรงงานซึ่งจัดการเดินขบวนระบุว่ามีผู้มาเข้าร่วมถึง 80,000 คน ด้านกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสให้ตัวเลขผู้เข้าร่วมการประท้วงเพียง 28,000 คนเท่านั้น ขณะที่ตัวเลขผู้ออกมาเดินขบวนทั่วประเทศอยู่ที่ 164,000 คน ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขสหภาพแรงงานที่ระบุว่าผู้เข้าร่วมประท้วงทั้งหมดมี 310,000 คน

ส่วนที่ประเทศเวเนซุเอลา เกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายค้านกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในกรุงการากัส หลังจากที่นายฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้าน พยายามที่จะเรียกร้องให้มีการเดินขบวนประท้วงเพื่อต่อต้านประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน

กองกำลังป้องกันประเทศได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชนผู้ประท้วงที่โยนก้อนหินตอบโต้ ในความพยายามที่จะปิดทางสัญจรที่ใกล้กับฐานทัพอากาศในฝั่งตะวันออกของกรุงการากัส ซึ่งนายไกวโดพยายามที่จะปลุกกระแสให้กองทัพออกมาต่อต้านนายมาดูโรหนึ่งวันก่อนหน้านี้

นับเป็นวันที่ 2 ที่เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเวเนซุเอลา โดยเหตุประท้วงดังกล่าวยังเกิดขึ้นขณะที่สหรัฐอเมริกาประกาศว่าเตรียมพร้อมที่จะดำเนินมาตรการทางทหารหากจำเป็น เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในเวเนซุเอลาอีกด้วย

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์