
“นางแคร์รี่ ลัม” ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง กล่าวปาฐกถา ในการประชุม ”เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า: ขอบเขตใหม่แห่งการปฏิรูปและเปิดกว้างของจีน แนวปฏิบัติใหม่ของหลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ และเวทีใหม่ของความร่วมมือที่ทุกฝ่ายล้วนได้ประโยชน์” หรือเขต GBA เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 62 ว่า ได้ตั้งเป้าหมายให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางของเขต ใน 4 ด้าน โดยพัฒนาจากศักยภาพที่ฮ่องกงมีอยู่ ได้แก่
อันดับแรก ด้านการเงิน ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงินลำดับที่ 3ของโลก ลำดับที่1 ของเอเชีย เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญลำดับที่ 6ของโลก ด้วยจุดแข็งด้านสถานที่ตั้งและระบบกฎหมายของฮ่องกง
- ประกาศใหม่ ผลประโยชน์ตอบแทนบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตน ม.33,39
- ชัชชาติ พับ “ทางเลียบเจ้าพระยา” ดับโครงการในฝันประยุทธ์
- เปิดวิธีลงทะเบียน เลือกตั้งล่วงหน้า 2566 มีขั้นตอนอย่างไร ?
อันดัที่ 2 คมนาคม ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการบิน โดยสนามบินฮ่องกงเป็นสยามบินลำดับที่ 3 ของโลก (74 ล้านคน) และเป็นแหล่งขนส่ง cargo ลำดับที่ 1 (5 ล้านตัน) และโครงการขยายท่าอากาศยานจะทำให้การเป็น”ประตู” ของฮ่องกงสำคัญยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยง จุดหมายกว่า 200แห่งทั่วโลกเข้าด้วยกัน
จุดแข็งที่ 3 ด้านการเป็นศูนย์กลางของบริการที่มีความเป็นมืออาชีพ (Professional Services) ระดับโลก ซึ่งเกิดจากระบบกฎหมาย การศึกษา โครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการต่าง ๆ ทีที่ได้มาตรฐานระดับโลกของฮ่องกง
จุดแข็งที่ 4 การเป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัย 3 แห่งในฮ่องกงติดอันดับ top 50 ของโลก และฮ่องกงมุ่งส่งเสริมการพัฒนาด้าน Health technology, AI robot, และการวิจัยพัฒนา โดยฮ่องกงมีแผนที่จะร่วมจัดตั้ง Shenzhen-Hongkong Technology Parkที่เซิ้นเจิ้น และ GBA academic alliance ในฮ่องกง (เน้นการแลกเปลี่ยน+ร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมกับจีนแผ่นดินใหญ่)
“เยาวชนคืออนาคตของพวกเรา (Young People are Our Future) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน โดยเฉพาะการยกระดับความสามารถและการเข้าถึงโอกาสและเงินทุน”
นางแคร์รี่ ลัม กล่าวด้วยว่า “ฮ่องกงพัฒนามาถึงปัจจุบันเพราะอัตลักษณ์พิเศษฮ่องกง คือ การปกครองภายใต้ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่ทำให้ฮ่องกงมีอำนายอธิปไตยในการปกครองตนเองสูง (high autonomy) มีระบบกฎหมายและระบบเศรษฐกิจที่แตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของนานาชาติ ซึ่งจะเป็นจุดเด่นที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาของ GBAต่อไป”
“แม้การชุมนุมประท้วงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของฮ่องกง แต่รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเชื่อมั่นว่าสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ และรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงจะใช้อัตลักษณ์และจุดแข็งของฮ่องกง ภายใต้การปกครองตามหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ในการเสริมสร้างความร่วมมือที่ทุกฝ่ายล้วนได้รับผลประโยชน์(win-win cooperation)”