ปลดฟ้าผ่า! ผู้บริหาร “แมคโดนัลด์” เซ่นปมแอบมีสัมพันธ์กับ “พนักงาน”

นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่าเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.62) มีประกาศอย่างเป็นทางการให้ “สตีฟ อีสเตอร์บรู๊ค” ออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. บอร์ดบริหารของแมคโดนัลด์ได้ลงมติเสียง ทั้งนี้ บอร์ดของบริษัทระบุว่า นายอีสเตอร์บรู๊ค กระทำความผิดละเมิดกฎระเบียบของบริษัท เหตุเพราะมีความสัมพันธ์อันไม่เหมาะสมกับพนักงานของบริษัทตัวเอง ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์นั้นจะเป็นความยินยอมของทั้งคู่ก็ตาม

ขณะที่นายอีสเตอร์บรู๊ค ได้ส่งอีเมลแสดงความเสียใจต่อการกระทำของเขาให้กับพนักงานของแมคโดนัลด์ โดยระบุว่า “บอร์ดบริหารตัดสินใจถูกต้องแล้วเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแมคโดนัลด์” พร้อมยอมรับว่าพฤติกรรมของตนเป็นความผิดพลาด

ก่อนหน้านี้ นายอีสเตอร์บรู๊ค เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมื่อเดือน มี.ค. 2015 สามารถเข้ามากอบกู้สถานการณ์ของแมคโดนัลด์ ที่กำลังต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลงจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดยุคดิจิทัล อาทิ การบริการสั่งอาหารผ่านแอพลิเคชั่น, การให้บริการชำระเงินออนไลน์ รวมถึงบริการจัดส่งถึงบ้าน เป็นต้น ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของแมคโดนัลด์เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า

ทั้งนี้ บอร์ดบริหารมีมติแต่งตั้ง นายคริส เคมป์ซินสกี ประธานแมคโดนัลด์ประจำสหรัฐ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าแม้ว่าผลประกอบการของบริษัทแมคโดนัลด์จะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ก่อนหน้านี้บริษัทเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากผู้สนับสนุนด้านแรงงาน โดยอ้างว่าบริษัทให้ค่าแรงและปฏิบัติต่อพนักงานอย่างไม่เป็นธรรม โดยชี้ว่า พนักงานของแมคโดนัลด์บางส่วนได้รับค่าแรงต่ำกว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง และเป็นเหตุให้พนักงานรวมตัวกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง รวมถึงการคุ้มครองจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วย