เฟดอัดฉีด 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หนุนทุกภาคส่วนรับมือโควิด -19

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินผ่านโครงการเงินกู้มูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (9 เมษายน 2020) สนับสนุนทางด้านเงินทุนให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ของสหรัฐ เช่น รัฐบาลท้องถิ่น, ภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

แถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐ ระบุว่า เฟดจะสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับรัฐบาลท้องถิ่นของสหรัฐซึ่งสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีจำนวนมากจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยทางธนาคารกลางจะเข้าช่วยเหลือรัฐต่าง ๆ ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาลท้องถิ่นโดยตรง ซึ่งคาดว่าจะใช้เม็ดเงินในส่วนนี้มูลค่ามากกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้เฟดจะสนับสนุนทางด้านการเงินให้กับธนาคารต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีรายได้ไม่เกิน 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีพนักงานไม่เกิน 10,000 คน โดยสัญญาเงินกู้จะมีระยะเวลา 4 ปี และสามารถยืดระยะเวลาการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยออกไปได้ 1 ปี โดยจะใช้วงเงินราว 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงโครงการเงินทุนสนับสนุนการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็กเพื่อรักษาสภาพคล่องของธุรกิจให้เพียงพอสำหรับการจ่างค่าจ้างพนักงาน

นอกจากนี้ยังมีการอัดฉีดเม็ดเงินให้กับภาคครัวเรือนและธุรกิจผ่านการเข้าซื้อตราสารหนี้ทั้งจากตลาดแรกและตลาดรองอีกอย่างน้อย 850,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย “เจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่า “เฟดจะดำเนินมาตรการอัดฉีดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาฟื้นตัวอย่างมั่นคง”