‘อีลอน มัสก์’ ไม่สนคำสั่ง ‘ล็อกดาวน์’ เปิดโรงงานแคลิฟอร์เนียอีกครั้ง

Tobias SCHWARZ / AFP

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า “เทสล่า” บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา กลับมาเปิดดำเนินการโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในรัฐแคลิฟอร์เนียอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของเทศมณฑล “อาลาเมดา” อันเป็นสถานที่ตั้งของโรงงาน ที่ขยายคำสั่งล็อกดาวน์โดยยังคงไม่อนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการ ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่าระบุในทวิตเตอร์ว่า “เทสล่ากำลังกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งในวันนี้ เพื่อต่อต้านกฎของเทศมณฑลอาลาเมดา โดยผมจะอยู่ในฐานะเดียวกันกับทุก ๆ คน ถ้ามีใครถูกจับกุม ขอให้เป็นผมเพียงคนเดียว” ก่อนหน้านี้ นายมัสก์ยังเคยระบุว่าจะย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัทออกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย หากโรงงานยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการอีกครั้ง

ในขณะนี้หน่วยงานระดับรัฐและระดับท้องถิ่นของสหรัฐกำลังพิจารณาแนวทางการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลังจากที่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคระบาดในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนักและจำนวนผู้ว่างงานสหรัฐพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือน เม.ย. รัฐบาลกลางของสหรัฐได้ระบุให้ทางการของรัฐต่าง ๆ พิจารณาผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด โดยอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อีกครั้ง ตามระดับการคลี่คลายของสถานการณ์โรคระบาดในแต่ละพื้นที่ ซึ่งรัฐแคลิฟอร์เนียก็ได้ผ่อนคลายมาตรการโดยอนุญาตให้โรงงานกลับมาดำเนินการผลิตได้แล้ว แต่เทศมณฑลอาลาเมดายังคงไม่อนุญาตตามนโยบายดังกล่าว

เทสล่ายังได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลก่อนหน้านี้ โดยเรียกร้องให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งของเทศมณฑลที่ยังคงห้ามผู้ผลิตรถยนต์ดำเนินการผลิต ซึ่งขณะนี้ผลการพิจารณาของศาลยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของเทศมณฑลอาลาเมดาระบุว่า มีการสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องระหว่างเทศมณฑลและเทสล่า เกี่ยวกับแผนการและแนวทางการปฏิบัติ แต่การกระทำของเทสล่าครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดคำสั่งล็อกดาวน์ ขณะที่เทสล่าระบุว่าการตัดสินใจกลับมาเปิดทำการโรงงานครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐแคลิฟอร์เนีย

ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายของสหรัฐได้วางแผนที่กลับมาผลิตรถยนต์อีกครั้งในเดือน พ.ค. ตามคำสั่งแต่ละพื้นที่ แต่ก็มีอีกหลายรายที่ยังคงต้องเลื่อนการเปิดดำเนินการโรงงานออกไป เนื่องจากหลายรัฐที่ยังคงยังระงับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่จำเป็นอย่างเช่น รัฐมิชิแกน เป็นต้น