4 ชาติมหาอำนาจเริ่มแข่งพัฒนา 6G ชิงชัยผู้นำเทคโนโลยีโลก

REUTERS BY A THIRD PARTY. CHINA OUT.

สำนักข่าว “เอเซียน นิเคอิ รีวิว” รายงานว่าการแข่งขันเพื่อพัฒนา 6G ระหว่างประเทศมหาอำนาจได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยมีบริษัทอย่าง “ซัมซุง” และ “หัวเว่ย” เป็นแนวหน้าในการช่วงชิงชัยครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศักยภาพในการพัฒนาสถานีฐานซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการต่อยอดเครือข่ายในอนาคต ซึ่งการมีบริษัททั้งสองแห่งได้ส่งผลให้ “จีน” และ “เกาหลีใต้” ถือไพ่เหนือกว่าในการแข่งขันครั้งนี้ ขณะ “ญี่ปุ่น” ก็ได้พยายามพัฒนาเพื่อไล่กวดทั้งสองประเทศที่กล่าวมา รวมถึง “สหรัฐ” ที่เตรียมใช้จุดแข็งของประเทศจากการผลิตชิพประมวลผลเพื่อเป็นเรือธงในการช่วงชิงชัย

ทั้งนี้ รายงานระบุว่าการกำหนดมาตรฐานของเทคโนโลยี 6G จะถูกเริ่มต้นในปี 2023 ซึ่งคาดว่าบริษัทผู้พัฒนาอุปกรณ์จะเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องก่อนปี 2027 ในกรณีดังกล่าวทางเกาหลีใต้และจีนได้มีการเริ่มพัฒนาผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนแล้ว โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ซึ่งตั้งเป้าว่าจะเป็นประเทศแรกที่มีการใช้บริการ 6G เชิงพาณิชย์อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติแผนพัฒนามูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในส่วนของบริษัทเกาหลีอย่าง “ซัมซุง” และ “แอลจี” ได้เปิดตัวศูนย์วิจัย 6G เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งก็ได้ประกาศแผนการวิจัยและพัฒนา เมื่อ พ.ย.2019 รวมถึงบริษัท “หัวเว่ย” ก็ได้เปิดตัวโปรเจคพัฒนาแล้วเช่นกัน

ขณะที่ เมื่อเดือน เม.ย. 2020 ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ “ญี่ปุ่น” ได้ประกาศยุทธศาสตร์ Beyond 5G โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกของสถานีฐานและอุปกรณ์อื่น ๆ ของเทคโนโลยีโทรคมนาคมสู่ระดับ 30% จากส่วนแบ่งตลาดปัจจุบันที่ระดับเพียง 2% เท่านั้น นอกจากนี้ทาง “ญี่ปุ่น” ยังเตรียมผลักดันบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นให้เพิ่มสัดส่วนการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีและนวัตกรรมโทรคมนาคมเป็น 10% ของการจดสิทธิบัตรทั่วโลกอีกด้วย

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐก็ต้องการให้ประเทศเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยี 6G เช่นกัน โดยรายงานระบุว่าสหรัฐจะใช้จุดเด่นของประเทศจากการผลิตชิพประมวลผลความเร็วสูงในการแข่งขันกันเพื่อเป็นผู้นำของเทคโนโลยีนี้ ซึ่งอุปกรณ์ประมวลผลดังกล่าวเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับสถานีฐานของ 6G