‘เทสลา’ ยังเป็นบริษัทรถยนต์หรือไม่

FILE PHOTO: CEO of Tesla Motors Elon Musk reacts following the company's initial public offering at the NASDAQ market in New York June 29, 2010. REUTERS/Brendan McDermid/File Photo

“เทสลา” บริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกของ “อีลอน มัสก์” ทำรายได้ช่วงไตรมาส 1 ของปี 2021 มากถึง 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 74% ขณะที่ตัวเลขกำไรถึง 438 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 2,638% และเป็นการทำกำไรไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ ตัวเลขกำไรไม่ได้มาจากยอดขายรถยนต์อย่างเดียว แต่รวมการจำหน่ายคาร์บอนเครดิต รวมถึงรายได้สำคัญจากการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล “บิตคอยน์” หลังเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เทสลาประกาศลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐซื้อบิตคอยน์ หลังจากนั้นบริษัทได้ขายออกไป 10% ทำให้ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาสามารถทำกำไรจากการลงทุนบิตคอยน์ถึง 101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ เทสลายังงมียอดขายจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ผู้ประกอบการรายอื่น 518 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 46%

ขณะที่ มัสก์ถูกกล่าวหาว่า หลังจากประกาศลงทุนบิตคอยน์ ได้ใช้ความโด่งดังบนทวิตเตอร์ปั่นมูลค่าขึ้นสูง เพื่อท้ายที่สุดแล้วก็ขายบิตคอยน์เพื่อ “เก็งกำไร”

มัสก์แย้งว่า การที่เทสลาขายบิตคอยน์ออกไป 10% เพื่อพิสูจน์สภาพคล่องของบิตคอยน์ และมัสก์สัญญาว่าไม่ทำแบบนี้ตลอด เทสลาจะยังคงถือบิตคอยน์ต่อไป รวมถึงยังเปิดรับการซื้อรถยนต์ของเทสลาด้วยบิตคอยน์ได้

ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ เทสลา ช่วงไตรมาส 1 อยู่ที่ 185,000 คัน เพิ่มขึ้น 109% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่ได้มาก โดยมัสก์ระบุว่า เทสลาโมเดล 3 เป็นรถยนต์ลักเซอรี่ซีดานที่ขายดีที่สุดในโลก

“นิโคล ไฮแอตต์” นักวิเคราะห์ บริษัทฮาร์เกรฟส์ แลนส์ดาวน์ กล่าวว่า แม้รายได้เทสลาเติบโต แต่แผนการผลิตรถยนต์ยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะปัญหาซัพพลายชิปที่กำลังขาดแคลน

โดยเทสลาคาดการณ์ว่า จะต้องเพิ่มอัตราการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 50% ในปีนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้น และจะเร่งศักยภาพการผลิต ซึ่งก็จะยิ่งทำให้ปัญหาขาดชิปรุนแรงกว่าเดิม

นอกจากนี้ เทสลาก็เผชิญกับปัญหาการผลิตมาแล้ว หลังเคยประกาศจะเริ่มจัดส่งรถซีดาน “โมเดลเอส” รุ่นใหม่ ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้จัดส่ง โดยถูกเลื่อนมาเป็นเดือน พ.ค.นี้ รวมถึงปัญหาเรื่องจุดบริการซ่อมรถยนต์ของบริษัทที่น้อยมาก ทำให้ผู้ใช้รถยนต์เทสลาหลายคนไม่พอใจ

นอกจากนี้ แม้เทสลาจะสามารถทำกำไรจากการลงทุนซื้อขายบิตคอยน์ได้ก็ตาม แต่ไฮแอตต์มองว่า นักลงทุนอาจไม่อยากสนับสนุนเทสลาต่อ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวน และหากจะไปลงทุนบิตคอยน์ก็ซื้อเองได้อยู่แล้ว ไม่ต้องรอให้เทสลาลงทุนให้

อย่างไรก็ดี ไฮแอตต์กล่าวว่า ไม่ว่าเทสลาจะเป็นบริษัทอะไรก็ตาม ที่มักจะทำอะไร “แหวกแนว” แต่ก็สามารถขึ้นแท่นเป็นผู้ชนะมาโดยตลอด