ยุโรปเหนือไม่รอด “ฮีตเวฟ” อากาศร้อนจัดเหมือนสหรัฐ-แคนาดา

Stefan Jerrevang/TT News Agency/via REUTERS

กลุ่มประเทศนอร์ดิก แถบยุโรปเหนือ กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน (Heatwave) สภาพภูมิอากาศร้อนจัด หลังก่อนหน้านี้ มีรายงานฮีตเวฟที่สหรัฐอเมริกา และแคนาดาแล้ว

วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 สำนักข่าวสเตรท ไทมส์ รายงานว่า นักอุตุนิยมวิทยาจากกลุ่มประเทศนอร์ดิก แถบยุโรปเหนือ ประกอบด้วย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ได้เผชิญกับคลื่นความร้อน (Heatwave) สภาพภูมิอากาศที่ร้อนระอุสูงสุดถึง 34 องศาเซลเซียสในบางประเทศ

ทั้งนี้ เมืองเคโว (Kevo) ทางตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 33.5 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่ปี 1914 นอกจากนี้เมื่อเดือนที่แล้ว อุณหภูมิก็พุ่งสูงในหลายเมืองของประเทศสวีเดนเช่นเดียวกัน อย่างเมือง “ซอลท์ดัล” (Saltdal) ที่ใกล้วงกลมอาร์กติก ที่อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 34 องศาเซลเซียส

ก่อนหน้านี้ แถบตะวันตกของประเทศแคนาดา และสหรัฐอเมริกา ได้เผชิญกับคลื่นความร้อน โดยทางการรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดารายงานว่า พบอัตราผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 195% ขณะที่ทางการรัฐออริกอน ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 65 คน จากภาวะอากาศร้อนจัดนี้

ทั้งนี้ หมู่บ้านลิททัน (Lytton) รัฐบริติชโคลัมเบีย ได้บันทึกอุณหภูมิสูงสุดถึง 49.6 องศาเซลเซียส ซึ่งทุบสถิติอุณหภูมิสูงที่สุด ตั้งแต่มีการบันทึกมาของประเทศ โดยอุณหภูมิสูงกว่าช่วงหน้าร้อนตามปกติ ตั้งแต่แถบรัฐออริกอน ขึ้นไปถึงกลุ่มเกาะอาร์กติกแคนาดา และนักพยากรณ์อากาศระบุว่า สถานการณ์จะแย่ลงกว่านี้

รายงานข่าวระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (climate change) ได้ทำให้เกิดการ “ทุบสถิติ” อุณหภูมิที่ร้อนที่สุดตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก เพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยเมื่อช่วงปี 2010-2019 ถือเป็นทศวรรษที่ทำสถิติ อุณหภูมิทั้งโลกสูงที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลมา