ศาลฎีกาสหรัฐ มีคำตัดสินระงับคำสั่ง ประธานาธิบดีไบเดน ที่ให้ภาคธุรกิจกำหนดวัคซีนภาคบังคับแก่พนักงาน
วันที่ 14 มกราคม 2565 ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ศาลฎีกาสหรัฐ มีคำตัดสินเมื่อ 13 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ให้ระงับคำสั่งทางปกครองของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดให้ภาคธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ต้องกำหนดมาตรการวัคซีนขั้นบังคับแก่พนักงานของตน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โดยชี้ว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของประธานาธิบดี ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจสั่งการบังคับให้เอกชนขนาดใหญ่จัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่ยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น อย่างไรก็ตามยังคงอนุญาตให้มีการบังคับฉีดวัคซีนกับสถานบริการด้านสุขภาพ
ความคืบหน้าดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่คำสั่งวัคซีนภาคบังคับในบริษัทเอกชนของไบเดน กลายเป็นประเด็นที่ถูกโต้แย้งกันอย่างหนัก โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 6 พ.ย. ศาลอุทธรณ์ภาคห้าของสหรัฐได้มีคำตัดสินระงับคำสั่งของประธานาธิบดีไบเดน ที่กำหนดให้ภาคเอกชนที่มีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องเข้ารับวัคซีนโควิด
ทว่าต่อมา คำตัดสินจากศาลอุทธรณ์ภาคหก ในเมืองซินซินนาติ ได้มีคำตัดสินเมื่อ 17 ธ.ค. ให้คืนคำสั่งบังคับธุรกิจขนาดใหญ่ฉีดวัควีนหรือตรวจเชื้อโควิดให้กับพนักงาน ผู้พิพากษาจากศาลอุทธรณ์ภาคหก ให้เหตุผลว่า “กฎหมายอนุญาตให้สำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสหรัฐ (OSHA) ดำเนินการตามหน้าที่ เพื่อรับรองสภาวะการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพสำหรับแรงงานของประเทศ”
ทั้งนี้ ยังมีคำฟ้องร้องในคดีประเด็นเดียวกันที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ซึ่งส่อแววว่ารัฐบาลกลางอาจแพ้คำตัดสินอีกครั้ง ท่ามกลางคำวิจารณ์ว่ารัฐบาลไบเดนล้มเหลวในการพยายามเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนผ่านการใช้อำนาจของรัฐบาล นอกจากนี้ ระหว่างการพิจารณาคดีข้างต้นในศาลฏฎีกา ผู้พิพากษายังตั้งข้อสังเกตว่าคำสั่งของผู้นำสหรัฐชอบด้วยกฎหมายหรือไม่