ดิ่งฮวบ! ยอดขายปลีก “สินค้าที่ไม่ใช่อาหาร” ในสหราชอาณาจักรตกต่ำ หลังเงินเฟ้อพุ่ง-ผู้บริโภคลดใช้จ่าย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน งานวิจัยของ British Retail Consortium เปิดเผยว่า ยอดขายปลีกในสหราชอาณาจักรที่ไม่ใช่สินค้าอาหารตกต่ำในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเเรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งควบคุมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีการเผยเเพร่ข้อมูลร่วมกับ KPMG แสดงให้เห็นว่าการขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหารในร้านค้าขายปลีกลดลงร้อยละ 4.4% นับเป็นตัวเลขที่ลดลงที่สุดตั้งเเต่ปี 2012 ทั้งนี้พบว่ายอดขายอาหารเพิ่มขึ้น 2.6%

นักวิเคราะห์กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและการเติบโตของค่าจ้างที่ชะงักงัน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความจำกัดในการซื้อของ เเละต้องเลือกซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็นมากขึ้น

นางเฮเลน ดิกคิน ผู้บริหารของ BRC กล่าวว่า ความเเตกต่างของยอดขายอาหาร เเละสินค้าที่ไม่ใช่อาหารไม่เคยเลวร้ายเท่านี้มาก่อน ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าอัตรารายได้ ทำให้ในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา ผู้บริโภคซื้อสินค้าที่จำเป็น เเละเน้นไปที่การซื้ออาหาร โดยยอดขายออนไลน์โดยรวมเพิ่มขึ้น 7.6% แต่ก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 12 เดือนที่ 8.0%

พอล มาร์ติน หัวหน้าฝ่ายค้าปลีกของ KPMG กล่าวว่าตัวเลขเหล่านี้ยืนยันให้เห็นถึงความเเตกต่างของการขายบนออนไลน์เเละถนนสายหลัก เห็นได้ว่าผู้ซื้อชื่นชอบการสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

“คนขายของชำได้รับประโยชน์จากงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง เเต่ยอดขายตามถนนที่มีร้านค้าราคาสูงยังคงเงียบ ในทางตรงกันข้าม สินค้าออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพ ความงาม รองเท้า เสื้อผ้าได้รับความนิยม” มาร์ติน กล่าว

การค้าปลีกในสหราชอาณาจักรลดลงร้อยละ 9.6% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศ มีหิมะตกหนัก เป็นเรื่องลำบากในการซื้อขายสินค้าต่อผู้ค้าปลีก

จำนวนผู้ซื้อที่เข้าชมถนนในวัน Boxing Day ลดลง 5% โดยวันที่ 28 ธันวาคมเป็นวันที่คึกคักที่สุดของปีสำหรับผู้ซื้อ แต่การซื้อสินค้าในวันนั้นก็ลดลง 8.6% อยู่ดี

คงต้องรอติดตามว่าสถานการณ์ค้าปลีกในสหราชอาณาจักรจะเป็นอย่างไรต่อไป