เพื่อนบ้านนำร่อง ขบวนค้าเสรีเอเชียกลาง

AFP PHOTO / HOANG DINH NAM

คอลัมน์ รู้จักอาเซียน
โดย มัธธาณะ รอดยิ้ม


เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวการเยือนคาซัคสถานของ นางเหงียน ทิ กิม ง๋าน ประธานสภาเวียดนาม เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่ชี้ถึงการกระชับมิตรความร่วมมือและส่งเสริมความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างกัน

และเป็นครั้งแรกตามที่ “เวียดนามนิวส์” รายงานว่า ประธานฝ่ายนิติบัญญัติของเวียดนามจะเดินทางเหยียบแผ่นดินคาซัคสถานอย่างเป็นทางการ แต่ก่อนหน้านี้เวียดนามเคยแลกเปลี่ยนการเยี่ยมของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อยู่บ่อยครั้ง

สะท้อนภาพความใกล้ชิดสนิทสนม แต่คาซัคสถานสำคัญไฉน

แม้ว่าประเทศนี้จะมีประชากรเพียง 16.6 ล้านคน แต่ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชียกลาง อุดมไปด้วยทรัพยากรที่เป็นกำลังสำคัญต่อปัจจัยการผลิต ไม่ว่าจะเป็น “น้ำมัน” กับตำแหน่งผู้ส่งออกอันดับที่ 8 ของโลก ยังไม่รวมทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมาย

ทั้งสองประเทศยังเคยทำเอ็มโอยูร่วมกันในเรื่องความร่วมมือด้านพลังงาน ที่มีตัวแทนจากเปโตรเวียดนาม วิสาหกิจน้ำมัน และคัซมูเนย์แก๊ส วิสาหกิจพลังงานของคาซัคสถาน ตลอดจนความร่วมมืออื่น ๆ ในการส่งเสริมการค้า

แต่ที่น่าจับตามองคือ “ขบวนการค้าเสรียูเรเซีย” (Eurasia Economic Union Free Trade Agreement) ที่มีผลตั้งแต่พฤษภาคม ปี 2558 โดยสมาชิกในกลุ่มนั้นมีทั้งคาซัคสถานและเวียดนามร่วมซึ่งเป็นเพียงประเทศเดียวนอกภูมิภาคในขณะนี้

เคยมีข่าวว่ารัสเซียพยายามทาบทามประเทศไทยเข้าร่วมขบวน และกัมพูชาแสดงความต้องการเข้าร่วม แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวคืบหน้าออกมา ซึ่งหมายความว่าเวียดนามมีสิทธิฉีกหนีตลาดใหญ่ที่มีคู่แข่งมากรายอย่างตลาดยุโรป สหรัฐ จีน หรือกระทั่งอาเซียนเอง

แม้คาซัคสถานจะตั้งอยู่ใจกลางเอเชีย ไม่มีทางออกทะเล แต่อย่าลืมว่าจีนกำลังผลักดันเส้นทางสายไหมใหม่ (One Belt and One Road Initiative) โดยมีเส้นทางผ่านประเทศยักษ์ใหญ่แห่งนี้ อนาคตอาจใช้ทางรถไฟจีนย้ายสินค้าจากคาซัคสถาน ผ่านเติร์กเมนิสถาน อุซเบกิสถาน เข้าอิหร่านได้ หรือทำในทิศทางกลับกันก็ยังได้

ส่วนตลาดในเอเชียกลาง เว็บไซต์สถานทูตไทย ณ กรุงมอสโก แนะว่าควรเจาะกลุ่มสาขาด้านโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่ขยายตัวคู่ขนานไปกับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมัน หรือสินค้าที่ราคาไม่แพงและสนองความต้องการอย่าง อาหารทะเลกระป๋อง ผักและผลไม้กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแห้งปรุงรส เครื่องปรุงรส เนื้อสัตว์ประเภทไก่ เป็นต้น

แต่การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษารอบด้านและกรุณาดูด้านวัฒนธรรมประกอบ ส่วนข้อมูลของ เวียดนามเน็ต ที่อ้างนายเดือง ฮวง มิญ ทูตการค้าเวียดนามในรัสเซียมีใจความว่า สินค้าส่งออกหลักอย่างอาหารทะเล ผักและผลไม้ เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอะไหล่ต่าง ๆ บางรายการอาจได้รับการลดภาษีสูงสุด 90%

ด้วยสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เวียดนามได้รับจากการเป็นสมาชิกร่วม และมิตรที่ดีกับกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต และปฏิเสธไม่ได้ว่าเวียดนามเองก็เปิดรับการลงทุนจากหลายประเทศ หลายบริษัทสัญชาติไทยเองก็เข้าไปจอยต์มือจับแฮนด์กับทางการกับการตั้งนิคมอุตสาหกรรม อย่างที่ใกล้ ๆ กับเมืองวิญ เป็นต้น

เป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้เวียดนามเป็นสปริงบอร์ดกระโดดเข้าไปในเอเชียกลาง