เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ของฟิลิปปินส์ ประกาศเดินหน้าทำสงครามปราบปรามยาเสพติดต่อไป แม้จะเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนานาชาติ ในการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาฟิลิปปินส์ที่มีขึ้นในวันเดียวกันนี้ ซึ่งประธานาธิบดีดูแตร์เตอุทิศเวลาส่วนใหญ่ กล่าวถึงแนวทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลตนเองที่มุ่งรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงนโยบายปราบปรามยาเสพติด ที่สร้างความพอใจให้กับชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ แต่ถูกก่นประณามอย่างหนักจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน
“ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน การปราบปรามยาเสพติดผิดกฎหมายจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะเป็นรากเหง้าของความชั่วร้ายและความทุกข์ยาก” ประธานาธิบดีดูแตร์เตกล่าว และว่า “การต่อสู้จะดำเนินต่อไป…แม้จะความกดดันจากนานาชาติและในพื้นที่ การต่อสู้จะไม่ยุติ จนกว่าพวกที่เกี่ยวข้องจะรู้ว่าพวกเขาต้องหยุด เพราะว่าทางเลือกแค่ ไม่เข้าคุก ก็ไปลงนรก”
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นอกจากนี้ประธานาธิบดีดูแตร์เตยังร้องขอให้รัฐสภานำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้กับคดีร้ายแรง โดยเฉพาะคดีค้ายาเสพติด “ในฟิลิปปินส์ มีแค่ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถ้าคุณเอาชีวิตหนึ่งไป คุณจะต้องชำระด้วยความตาย นี่เป็นทางเดียวของการแก้แค้น”
ข่าวแจ้งว่า สภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ได้ผ่านร่างกฎหมายที่จะฟื้นโทษประหารชีวิตกลับมาใช้แล้ว ทว่ายังไม่ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากวุฒิสภาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นับแต่ประธานาธิบดีดูแตร์เตก้าวขึ้นมาบริหารประเทศเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนปีที่แล้ว เขาได้ดำเนินนโยบายกวาดล้างการค้ายาเสพติดอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้มีรายงานผู้ถูกสังหารจากการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดดังกล่าวแล้วเกือบ 3,200 ราย
ที่มา มติชนออนไลน์