

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางมาถึงสหราชอาณาจักร ถือเป็นการเยือนสหราชอาณาจักรครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปีที่แล้ว
เขามีกำหนดการเข้าพบนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ของสหราชอาณาจักร และกล่าวสุนทรพจน์ในรัฐสภา นอกจากนี้ก็จะเข้าเฝ้ากษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ด้วย
การเยือนของเขาเกิดขึ้นในช่วงที่อังกฤษกำลังเพิ่มการฝึกทหารยูเครนในการคุ้มครองนักบินเครื่องบินขับไล่และนาวิกโยธิน
คาดว่า สหราชอาณาจักรจะประกาศการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซียด้วย
ได้มีการประกาศแผนการหลายอย่างในการฝึกนักบินของยูเครนให้ขับเครื่องบินรบตามมาตรฐานของนาโตในอนาคต ซึ่งเป็นการร้องขอที่สำคัญของยูเครน
ชาติตะวันตกหลายชาติกำลังพิจารณาว่า จะเพิ่มการสนับสนุนยูเครนอย่างไร ในช่วงที่ยูเครนกำลังเตรียมเผชิญกับการบุกโจมตีรอบใหม่ของรัสเซียในเดือนนี้
การขยายโครงการฝึกดังกล่าวของสหราชอาณาจักรเป็นการส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลง หลังจากที่สหราชอาณาจักรเคยบอกว่า “เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ” ในการส่งเครื่องบินขับไล่ของสหราชอาณาจักรให้แก่ยูเครน
สัปดาห์ที่แล้ว โฆษกของนายซูแน็ก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เครื่องบินทหารของอังกฤษ “มีความซับซ้อนมากเกินไปและใช้เวลาหลายเดือนในการฝึกบิน”
สหราชอาณาจักรประกาศแผนการหลายอย่างแล้วว่า จะส่งรถถังแชลเลนเจอร์ 2 ให้ยูเครน โดยทหารยูเครนกำลังเข้ารับการฝึกใช้งานรถถังนี้อยู่
- รัสเซีย ยูเครน : รมว.กลาโหมยูเครน ระบุ รัสเซียวางแผนโจมตีใหญ่ 24 ก.พ. วันครบรอบ 1 ปีการรุกราน
- รัสเซีย ยูเครน : กลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์กลายเป็นที่รู้จักในสื่อกระแสหลักได้อย่างไร
- รัสเซีย ยูเครน : รถถังของเยอรมนี, สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จะพลิกสถานการณ์สงครามในยูเครนได้อย่างไร
ทำเนียบนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายซูแน็กจะเสนอเพิ่ม “ขีดความสามารถพิสัยไกล” ให้แก่ยูเครน เพื่อขัดขวางขีดความสามารถของรัสเซียในการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครน
นอกจากนี้ระบุด้วยว่า การฝึกซ้อมของอังกฤษจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยตั้งเป้าที่จะฝึกทหารยูเครนอีก 20,000 นาย

การเยือนกรุงลอนดอนของประธานาธิบดีเซเลนสกีอย่างเหนือความคาดหมาย ถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ เขาได้เดินทางเยือนสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. และได้เข้าพบกับประธานาธิบดีอันเดรจ ดูดา ของโปแลนด์ ในขณะเดินทางกลับยูเครน
ระหว่างการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดีซี เขาได้กล่าวต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งเขาได้รับการลุกขึ้นยืนปรบมือหลายครั้ง เขากล่าวว่า ยูเครน “จะไม่มีทางยอมแพ้”
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศมอบการสนับสนุนเพิ่มเติมให้ยูเครนด้วย รวมถึงระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออต
ประธานาธิบดีเซเลนสกีเคยกล่าวต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักรในเดือน มี.ค. ปีที่แล้วผ่านทางวิดีโอลิงก์จากกรุงเคียฟ ถือเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่ได้กล่าวต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักร
มีรายงานว่า หลังการเยือนสหราชอาณาจักร นายเซเลนสกีจะเดินทางเยือนกรุงบรัสเซลส์ คาดว่า เขาจะกล่าวต่อรัฐสภายุโรปที่นั่นในวันที่ 9 ก.พ. ก่อนที่จะเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป
ข่าวนี้รั่วไหลออกมาช่วงต้นสัปดาห์นี้ ทำให้เกิดความกังวลว่า อาจจะมีการยกเลิกการเดินทางนี้ เพราะความกังวลด้านความปลอดภัย
สหราชอาณาจักรสนับสนุนอะไรให้แก่ยูเครนแล้วบ้าง
นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว สหราชอาณาจักรได้มอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนแล้ว 2,300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 93,000 ล้านบาท) ถือเป็นประเทศที่มอบความช่วยเหลือให้ยูเครนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ รัฐบาลสหราชอาณาจักร ระบุว่า มีแผนที่จะมอบความช่วยเหลือให้ยูเครนในระดับเดิมในปีนี้
สหราชอาณาจักรได้บังคับใช้การคว่ำบาตรทางการเงินหลายรอบต่อรัสเซีย และได้รับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเข้ามามากกว่า 100,000 คนแล้ว
อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มอบให้จนถึงขณะนี้รวมถึง :
- ระบบป้องกันภัยทางอากาศหลายระบบรวมถึงสตาร์สตรีก (Starstreak) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อยิงอากาศยานที่บินในระดับต่ำในระยะใกล้
- รถถังแชลเลนเจอร์ 2 (Challenger 2)
- ปืนใหญ่รวมถึงปืนใหญ่อัตตาจร เอเอส90 (AS90 self propelled artillery gun) 30 กระบอก
- กระสุนขนาด 155 มม. หลายแสนลูก
- ระบบจรวดหลายลำกล้อง เอ็ม270 (M270 multiple-launch rocket system) พร้อมกระสุนความแม่นยำสูง เอ็ม31เอ1 (M31A1)
- อาวุธต่อต้านรถถังเบารุ่นใหม่ (Next-generation light anti-tank weapon—NLAW)
- ขีปนาวุธทางทะเลบริมสโตน (Maritime Brimstone missile)
- ยานหุ้มเกราะรวมถึงรถลาดตระเวนมาสทิฟฟ์ (Mastiff patrol vehicles)
- ระบบอากาศยานไร้คนขับ (unmanned aerial vehicle–UAV) ที่สามารถรับน้ำหนักได้มาก เพื่อใช้สนับสนุนการส่งกำลังบำรุงแก่กองกำลังที่อยู่ห่างไกล
- อุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์
https://www.youtube.com/watch?v=gEl5mU24r6U&t=1s
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว