ปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของ แพทองธาร ชินวัตร ประกาศขอเป็นผู้สนับสนุนภรรยาให้ทำงานการเมืองตามที่ตั้งใจไว้ พร้อมเผยด้านที่ อุ๊งอิ๊ง เหมือนพ่อกับแม่มากที่สุด
ชีวิตสมรสของ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร กับ ปอ-ปิฎก สุขสวัสดิ์ ดำเนินมาใกล้ครบ 4 ปี ใกล้เคียงกับอายุของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ด้วยเพราะทั้งคู่จัดพิธีหมั้นที่ รร.โรสวูด แบงคอก 18 มี.ค. 2562 ก่อนจัดพิธีฉลองสมรสที่ รร.โรสวูด ฮ่องกง 22 มี.ค. 2562
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- BITE SIZE : ถอนเงินไม่ใช้บัตร ข้ามแบงก์ได้แล้ว ธนาคารไหนรองรับบ้าง
งานสมรสของบุตรสาวคนสุดท้องของ ทักษิณ ชินวัตร กับ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร หาใช่เพียงงานวิวาห์ของคู่รักทั่วไป หากแต่ถูกมองว่าเป็น “อีเวนท์แห่งปี” โดยมีทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ นักแสดง และเซเลบริตี้ร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง
หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ปรากฏตัวในงานคือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ไปทรงร่วมงานฉลองมงคลสมรสของ อุ๊งอิ๊ง-ปอ ที่เกาะฮ่องกง หลังผ่านปรากฏการณ์ 8 กุมภาฯ 2562 ซึ่งนักรัฐศาสตร์และสื่อมวลชนขนานนามว่าเป็น “แผ่นดินไหวทางการเมือง” จากกรณีพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค จนนำไปสู่คำสั่งให้ยุบพรรค ทษช. โดยมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญ
ยุทธศาสตร์ “พรรคพี่-พรรคน้อง” ที่พรรค-พวกทักษิณวางเอาไว้ จึงพังทลายลงในช่วง 17 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 และทำให้พรรคเพื่อไทย (พท.) ชนะเลือกตั้ง แต่ไม่อาจจัดตั้งรัฐบาลได้
ภารกิจ “ผู้ติดตามหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”
4 ปีผ่านไป อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร เข้าสู่การเมืองเต็มตัว มี 3 ตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย ประธานที่ปรึกษาพรรคด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม, ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งพรรค และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ทันทีที่มีการประกาศยุบสภา-กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป บุตรสาวคนสุดท้องของทักษิณ ผู้ประกาศว่า “อิ๊งพร้อม” จะมีตำแหน่งที่ 4 เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหมายเลข 1 ของพรรคเพื่อไทย ตามรอยบิดา ทักษิณ นายกฯ คนที่ 23, อาเขย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ คนที่ 26 และ อาปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ คนที่ 28
“จริง ๆ มันไม่ได้มีคำพูดอะไรเป็นพิเศษ เพราะเหมือนเป็นเรื่องที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าเขามี passion (ความมุ่งมาดปรารถนา) ทางการเมือง” ปอ-ปิฎก กล่าวกับบีบีซีไทยถึงนาทีที่อุ๊งอิ๊งตัดสินใจลงเล่นการเมืองนับจากเดือน ต.ค. 2564
เขาใช้เวลาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งถึงบทสนทนาที่ภรรยาแจ้งกับเขา แต่คิดอย่างไร ก็นึกไม่ออก
ห่างออกไปไม่ถึง 5 เมตร แพทองธาร ผู้อุ้มท้องลูกคนที่ 2 อายุครรภ์ 7 เดือนเต็ม กำลังกล่าวทักทายชาวเชียงรายที่มารอต้อนรับในระหว่างลงพื้นที่ อ.แม่สาย เมื่อ 25 ก.พ. โดยมีปิฎกเฝ้ามองอยู่ และพร้อมเสมอที่จะเคลื่อนตัวเข้าไปหาภรรยาในยามที่เธอต้องการ
“เราก็คอยดูแลคุณแม่อยู่ห่าง ๆ ดูว่าเขาทำอะไร มีอะไรที่เราพอช่วยได้ไหม แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งในภารกิจของเขา เพราะมีทีมงานทำหน้าที่ดูแลส่วนต่าง ๆ อยู่แล้ว… จริง ๆ เวลาผมมาอย่างนี้ ก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรนะ เหมือนมาให้กำลังใจมากกว่า ให้เขาอุ่นใจ หันมาก็เห็นเรา” สามีแพทองธารกล่าว
หากไม่มีธุระสำคัญ ปอ-ปิฎก มักรับบท “ผู้ติดตามหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” ไปลงพื้นที่หาเสียงในหลายเวที-หลายจังหวัด คอยอำนวยความสะดวกและจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้เธอ อาทิ หมอนรองหลังระหว่างนั่งรถจากจุดหนึ่งไปอีกจุด, รองเท้ากีฬา, เสื้อผ้าหลวม ๆ เพราะท้องใหญ่แล้ว แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือชานมเย็น เครื่องดื่มที่อุ๊งอิ๊งโปรดปราน ทว่าเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ปรากฏตัวในพื้นที่ข่าว ไม่ให้สัมภาษณ์-ไม่อยู่ร่วมฉากที่มีกล้องของสื่อมวลชนจับภาพของภรรยาในอิริยาบถต่าง ๆ
นอกจากดูแลด้านกายภาพ ปอยังคอยดูแลด้านจิตใจและอารมณ์ของภรรยาวัย 36 ปี ซึ่งมี “ฮอร์โมนคนท้อง” พลุ่งพล่าน ทำให้ร้องไห้ง่าย ซึ้งง่าย และมักน้ำตาซึมเมื่อมีใครพูดถึงเรื่องครอบครัว
การเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตทายาทคนสุดท้องของทักษิณ แต่ยังเปลี่ยนกิจวัตร-กิจกรรมของครอบครัวของ อุ๊งอิ๊ง-ปอ ด้วย
ภารกิจดูแล ธิธาน ลูกสาวคนโตวัย 2 ขวบ ตกเป็นหน้าที่ของปอเป็นหลัก เพื่อให้ภรรยาทำงานได้อย่างสบายใจ-ไม่มีห่วง
“ถ้าวันไหน ไม่มีงานการเมือง เขาก็จะตื่นประมาณ 7 โมง มาเล่นกับลูก”
แต่ถ้าทริปไหน ปอไม่ได้ร่วมคณะไปกับศรีภรรยา เมื่อมีจังหวะนั่งรถเดินทางไกล ๆ อุ๊งอิ๊งก็มักจะวิดีโอคอลไปหาสามี และขอคุยกับธิธารที่ร้องเรียกหาแม่ ๆ
เมื่อกลับเข้าบ้าน แพทองธารก็ไม่ลืมนำประสบการณ์ที่ได้ระหว่างเดินทางไปถ่ายทอดให้คู่ชีวิตฟัง เพื่อให้รู้ว่าเธอไปทำอะไร เจอใคร ชอบอะไรในทริปบ้าง
“สะใภ้คนคอน”
ก่อนเปิดตัวในฐานะ “เขยรอง” ของ ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน ไม่ปรากฏข้อมูลส่วนตัวของ ปอ-ปิฎก มากนัก ไม่ว่าในเสริชเอนจินยอดนิยมอย่างกูเกิ้ล หรือในหน้าข่าวสังคม
สิ่งที่พบในโลกออนไลน์มีเพียงข้อมูลเรื่องการศึกษาว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และผ่านการสอบเป็นนักบินที่สายการบินแห่งหนึ่ง ก่อนที่สังคมจะมีโอกาสเห็นหน้าค่าตา-รับทราบความเคลื่อนไหวของปอผ่านอินสตาแกรมของอุ๊งอิ๊ง
เมื่อแพทองธารยกคณะไปร่วมกิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย แหลงจริง ทำได้ คนใต้หรอยแรง” ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 11 ธ.ค. 2565 ผู้คนในสังคมถึงมีโอกาสรู้ว่าปิฎกเป็นหนุ่มปักษ์ใต้
“วันนี้ในฐานะสะใภ้คนคอน ขอให้พี่น้องชาวใต้เปิดใจรับเพื่อไทย นุ้ยตั้งใจจริง อย่าทิ้งนุ้ยนะ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” แพทองธาร ลูกสาวชาวเชียงใหม่ ปราศรัยเป็นภาษาใต้ที่จังหวัดบ้านเกิดของสามี โดยมี ปอ-ปิฎก ร่วมฟังการแหลงอยู่ด้านหลังเวที
นี่ถือเป็นการเดินตามรอย อาแดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ซึ่งสมรสกับ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ชาว จ.นครศรีธรรมราช เช่นกัน
แม้เป็นพรรคอันดับ 1 ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย พลังประชาชน และมาถึงเพื่อไทย แต่ตลอดเวลากว่า 20 ปีนี้ พรรคทักษิณและทายาทไม่เคยปักธงในพื้นที่ภาคใต้ได้เลย มาถึงการเลือกตั้ง 2566 แกนนำ พท. คาดหวังว่าจะเก็บคะแนนเสียงจากชาวใต้ไปเติมแต้มปาร์ตี้ลิสต์ให้แก่พรรคบ้าง โดยให้เหตุผลว่ากระแสนิยมของ “สะใภ้คนคอน” ในพื้นที่ดีกว่าที่คาดเอาไว้
ผ่า “ดีเอ็นเอทักษิณ” จริงใจเหมือนพ่อ อดทนเหมือนแม่
ชายผู้ยินดีรับบท “หลังบ้าน” ของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และมีโอกาสติดตามภรรยาไปฟังปราศรัยอยู่ด้าน “หลังเวที” กล่าวว่า ไม่รู้สึกประหลาดใจกับการสื่อสารทางการเมืองของอุ๊งอิ๊ง เพราะรู้ว่าเธอ “พูดเก่ง” ตั้งแต่สมัยเป็นผู้บริหารภาคธุรกิจ แต่กับการเมืองมี passion มาก เห็นฟังข่าว อ่านข่าว ติดตามความเคลื่อนไหวการเมืองตลอด ก็เลยสื่อสารออกมาได้ดี
ส่วนประชาชนชนทั่วไปจะ “ฟังแล้วได้ยิน” ในสิ่งที่แพทองธารตั้งใจสื่อสาร หรือ “เห็นแต่ภาพลูกทักษิณ” นั้น ปิฎกชี้ว่า “เรื่องภาพคุณพ่อ คงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธยาก เพราะอิ๊งก็เป็นลูกของคุณพ่อจริง ๆ และวิธีพูด วิธีคิด คือเหมือนกันมาก เหมือนจริง ๆ อย่างกับคุณพ่อมาพูดเองเลยเวลาที่เขาปราศรัย”
เขาเน้นย้ำว่า สิ่งที่แพทองธารพูดสรุปจากความเข้าใจ ไม่ใช่การท่องจำ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเป็นเลือดแท้ชินวัตร-ทายาทการเมืองของทักษิณ ย่อมมีทั้งคนชอบและคนชัง และกลายเป็นมรดกการเมืองที่แพทองธารรับมาจากพ่อ ประเด็นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ปิฎกเป็นกังวล เพราะมองว่าเป็นเรื่องปกติ
“คนที่ชื่นชอบ เขาก็คงยิ่งชอบ ส่วนคนที่ไม่ชอบ ถ้าเขาตัดสินไปแล้วก็อาจเปลี่ยนยาก แต่กลุ่มที่ยังไม่ได้ตัดสิน และเปิดใจรับฟังสิ่งที่อิ๊งพูดจริง ๆ ก็จะรู้สึกได้ถึงความจริงใจ ก็คิดว่าน่าจะเปลี่ยนความรู้สึกได้” ปอระบุ
ในบรรดา 3 พี่น้องชินวัตร อุ๊งอิ๊งมีใบหน้าคล้ายพ่อมากที่สุด และมักออกตัวอยู่เสมอว่าเป็น “ลูกพ่อ” (daddy’s girl) เคยติดตามอดีตนายกฯ ไปลงพื้นที่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จนสามารถพูดนโยบายของพรรคไทยรักไทยได้เป็นฉาก ๆ จึงไม่แปลกหากวันที่ทายาทคนเล็กของทักษิณกระโจนลงสู่การเมืองเต็มขั้น แพทองธาร และพรรค พท. จะชูภาพความเป็น “ดีเอ็นเอทักษิณ” เพื่อขอคะแนนเสียงจากแฟนคลับรุ่นพ่อให้ส่งต่อ-สนับสนุนรุ่นลูก
คำถามที่เกิดขึ้นคือ อะไรคือสิ่งที่แพทองธารเหมือนพ่อกับแม่มากที่สุดในสายตาของคนในบ้าน
“ถ้าเหมือนคุณพ่อที่สุดคือ ความจริงใจ ประชาชนที่เข้าถึงและมีโอกาสใกล้ชิดจะสัมผัสได้”
“ส่วนสิ่งที่เหมือนคุณแม่ที่สุดคือ ความเด็ดขาด อิ๊งเป็นคนเด็ดขาดมาก ๆ ใครที่ทำงานด้วยจะรู้เลย และอีกเรื่องคือ ความอดทน ดูง่าย ๆ เลยถึงท้องอยู่ แต่ก็สู้นะ และเขาคงเดินทาง (หาเสียง) จนกว่าจะไปไม่ได้แล้ว คุณหมอที่ดูแลครรภ์ต้องไลน์มาบอกว่าถ้ามีเวลาพักหน่อยนะ คือคุณหมอก็ต้องคอยตามดูข่าวว่าวันนี้ไปไหน ๆ” ลูกเขยทักษิณตอบพลางหัวเราะเล็ก ๆ
ท่ามกลางบทบาทนำ-เป้าหมายสูงทางการเมืองของภรรยา ผู้เป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ปิฎกพึงใจจะอยู่ในสถานะ “ช้างเท้าหลัง” และจำกัดบทบาทตัวเองอยู่ที่การเป็น “ผู้สนับสนุน” ให้ภรรยาได้ทำงานตามที่ตั้งใจไว้
“ผมไม่ชอบออกหน้าอยู่แล้ว ชอบอยู่เงียบ ๆ มากกว่า ขอเป็น supporter (ผู้สนับสนุน) เขาให้ดีที่สุด” คู่ชีวิตของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยกล่าวทิ้งท้าย
และนั่นคือบทที่แม่ยายของเขา คุณหญิงพจมาน เลือกเล่นตลอดมาในช่วงที่ทักษิณครองอำนาจ
หมายเหตุ : ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว
