Very Festival อีกหนึ่งเทศกาลดนตรีที่เป็น “ตัวเลือกที่ดี” ของคนฟังเพลง

ท้องฟ้าสีเทา and friends : เรื่อง

วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 16-17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่อุดมไปด้วยความสนุกความบันเทิง ไปจนถึงความอิ่มเอมใจของบรรดาคนรักเสียงเพลง เพราะมีงานคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีให้ดูหลายงาน หนึ่งในนั้นคือ Very Festival เทศกาลดนตรีชื่อใหม่ล่าสุด จัดโดย Very Company ที่นำศิลปินทั้งระดับสากลและศิลปินไทยมาร่วมแสดงในงานกว่า 22 ราย ณ Show DC Arena

อย่างที่เกริ่นไปว่า เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ที่มีคอนเสิร์ตหลายงาน เฉพาะเทศกาลดนตรีสเกลใหญ่พอฟัดพอเหวี่ยงกันก็สองงานเข้าไปแล้ว ดังนั้นตัวผู้เขียนก็ต้องสลับเวลาไปดูเทศกาลดนตรีทั้งสองงาน ก็มีพลาดการแสดงหลายรายการใน Very Festival ไปอย่างน่าเสียดาย

Very Festival แบ่งการแสดงออกเป็น 2 เวที อยู่ขาง ๆ กัน The Very Stage เวทีใหญ่เป็นเวทีสำหรับศิลปินอินเตอร์ ส่วน The Wind Stage เวทีเล็กเป็นเวทีสำหรับศิลปินไทย โดยทั้งสองเวทีจะเล่นสลับกัน ไม่มีการแสดงที่เวลาคาบเกี่ยวกัน

ช่วงเวลาที่แดดเปรี้ยงดวงอาทิตย์แทบจะตั้งฉากกับศีรษะ ในวันปกติทั่วไปใครที่ไหนจะอยากออกไปยืนอยู่ในลานกลางแจ้งให้แดดแผดเผา แต่ในเมื่อมีสิ่งดึงดูดใจเป็นศิลปินที่อยากดู Very Festival ก็เลยสามารถดึงให้คนออกจากบ้านเข้างานไปชมการแสดงกลางแดดตั้งแต่ที่วงแรกเริ่มแสดงในเวลาบ่ายโมง

Shame

Pale Waves

The Marias

ศิลปินที่มามอบความสนุกให้คนดูในวันแรก ไล่ตามตารางการแสดง เริ่มจากสาว ๆ Fever จากไทย, Bowkylion นักร้องสาวสวยจากไทย, Tahiti 80 วงอินดี้ป็อปจากฝรั่งเศส, Getsunova วงป็อปชื่อดังเจ้าของเพลงฮิตมากมายจากไทย, Shame วงอัลเทอร์เนทีฟร็อกจากอังกฤษ, Safeplanet สมหนุ่มอินดี้ป็อปจากไทย, The Marias วงอินดี้พ็อปเสียงร้องสวย ๆ เย็น ๆ จากลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา, Telex Telexs วงอินดี้ป็อปจากไทย, Pale Waves วงกอธิกป็อปเท่ ๆ จากอังกฤษ, Whal & Dolph จากไทย และ Nothing But Thieves วงอัลเทอร์เนทีฟร็อกคุณภาพจากอังกฤษ

Bomb at Track

Fur

ส่วนวันที่ 2 การแสดงเริ่มเวลา 14.45 น. เปิดงานโดย The LaFontaines วงฮิปฮอป-ร็อกจากสก็อตแลนด์,  Valentina Ploy สาวสวยเสียงดีมากความสามารถลุกครึ่งไทย-อิตาลี, Sun Rai นักร้อง-นักแต่งเพลงหนุ่มจากออสเตรเลีย, De Flamingo วงอินดี้ร็อกจากไทย, Joan ดูโอ-อิเล็คโทรป็อปจากสหรัฐอเมริกา, My Life As Ali Thomas วงอินดี้โฟล์กแสนละมุนจากไทย, Fur วงเรโทรป็อปจากอังกฤษ, Bomb at Track วงนูเมทัลจากไทย, FKJ ศิลปินนูแจ๊ส/อิเล็กโทรป็อปจากฝรั่งเศส, Somkiat วงอัลเทอร์เนทีฟจากไทย, Sticky Fingers วงอินดี้ร็อก/เรกเก้ขวัญใจวัยรุ่นจากออสเตรเลีย และตามไลน์อัพเต็มจะมี The Kooks วงอินดี้ชื่อดังจากอังกฤษอีกวงที่เป็นเฮดไลน์ของงานวันที่สอง แต่วงต้องยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตเพราะนักร้องนำเกิดอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังขั้นรุนแรง

Sun Rai

Sticky Fingers

ไฮไลต์ของงานวันแรก และขอยกให้เป็นพระเอกของงานทั้งสองวันเลยก็คือ Nothing But Thieves วงร็อกรุ่นใหม่จากเซาธ์เอนด์ ประเทศอังกฤษ ที่พาเพลงร็อกแบบ “ถึงทุกอารมณ์” ไม่ว่าจะเป็นเพลงเร็วสนุก พุ่ง ๆ มัน ๆ ดนตรีเข้มข้น เพลงกลาง ๆ ชวนโยก หรือเพลงช้าที่แสนจะเศร้าสร้อยมามอบประสบการณ์อันแสนประทับใจให้คนดูในเมืองไทยอีกครั้ง

ถึงแม้เป็นโชว์ในเทศกาลดนตรี แต่พวกเขาก็จัดให้ได้ดูกันเต็มอิ่มประหนึ่งฟุลคอนเสิร์ตของวงเอง ด้วยเวลาการแสดงที่ผู้จัดวางไว้สำหรับวงเฮดไลน์มากถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง เพลงที่แฟน ๆ อยากดูอยากฟังก็ได้ฟังกันครบ ทั้ง “Amsterdam”, “Trip Switch”, “Sorry”, “Broken Machine”, “If I Get High”, “Lover, Please Stay” และอีกหลายเพลง

Nothing But Thieves

ศักยภาพการแสดงสดของ Nothing But Thieves เป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดให้มากความแล้ว เพราะพวกเขาพิสูจน์ให้เห็นตั้งแต่ตอนมาไทยครั้งแรกแล้ว และในงาน Very Festival ครั้งนี้ การแสดงสดของพวกเขาก็ปิดงานวันแรกไปอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าใครยังไม่ได้ดูโชว์ของพวกเขาสักครั้ง ขอแนะนำเลยว่า ถ้าคุณฟังเพลงร็อกไม่ว่าจะสายไหนก็ตาม วงนี้เป็นหนึ่งวงร็อกที่ควรดู แล้วคุณจะพบว่า ความสามารถของพวกเขาไปไกลเกินกว่าชื่อเสียงเหลือเกิน หรือพูดง่าย ๆ คือ ยังดังน้อยไปสำหรับวงคุณภาพระดับนี้

ส่วนไฮไลต์ของวันที่สอง ยกให้ FKJ หรือ Vincent Fenton ศิลปินหนุ่มสุดเท่จากฝรั่งเศสที่เลือกจบทัวร์คอนเสิร์ตปีนี้ที่งาน Very Festival แม้ว่างานนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเขาที่มาพบแฟนเพลงชาวไทย แต่เขาก็ยังคงความสดใหม่ในการแสดงจนสร้างความว้าว ตราตรึงตลอดโชว์ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ

FKJ

โชว์ของ FKJ ขึ้นชื่อเรื่องของการอิมโพรไวส์จากเครื่องซินธิไซเซอร์ผสมผสานกับเครื่องดนตรีจริงทั้งกีต้าร์ เบส แซกโซโฟน และเปียโน ที่เขาเล่นเครื่องดนตรีทุกชิ้นเพียงคนเดียวตลอดโชว์ ตั้งแต่เริ่มการแสดงด้วย “Skyline” และ “Lying Together” ค่อย ๆ เรียกให้ทุกคนกรู๊ฟตัวเองเบา ๆ ได้ไม่ยาก ก่อนที่ดนตรีของเขาจะค่อย ๆ ดึงอารมณ์ให้อินขึ้นไปเรื่อย ๆ ก่อนจะจบโชว์ ขณะที่คนดูรู้สึกใจหาย เพราะยังอยากจะดูต่อ

ด้วยความที่ FKJ อยู่ในกราฟขาขึ้น จึงเชื่อได้ว่าเรายังมีโอกาสจะได้พบกับเขาได้อีกในอนาคต ถ้าใครไม่ได้ดูโชว์ครั้งนี้ก็อยากชวนให้ลองไปสัมผัสกันด้วยตัวเองในครั้งต่อ ๆ ไป

ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของ “ระบบนิเวศคอนเสิร์ต” (เป็นคำที่เรียกเอาเอง 55) ในบ้านเรา ที่มีคอนเสิร์ตน่าดูเกิดขึ้นเดือนละหลายงาน การมีเทศกาลดนตรีที่รวมศิลปินหลาย ๆ ราย ทั้งที่ดังบ้าง ไม่ดังบ้าง (แต่คุณภาพดี) มาให้ได้ดูในงานเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนดูได้ใช้เงินไปอย่างคุ้มค่ามากถ้าเทียบกับฟุลคอนเสิร์ตของศิลปินรายเดียวที่ราคาบัตรใกล้เคียงกัน แต่ทั้งสองแบบก็มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่ที่ว่าใครชอบแบบไหน 


ยังไงก็ตามการมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งก็ย่อมเป็นเรื่องดี ซึ่ง Very Festival ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีด้วย แต่คงจะดีมากกว่านี้ถ้าไม่จัดชนกันกับเทศกาลดนตรีอีกงาน เพราะการจัดชนกันแบบนี้ คนดูทั้งลำบากใจและลำบากกายมากจริง ๆ