เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ขณะนี้น้ำโขงมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไหลเชี่ยวและมีสีขุ่นแดง เช้านี้วัดได้ 5.12 เมตร แต่ยังไม่ถึงขีดอันตราย ขีดอันตรายอยู่ที่ 10-12 เมตร เนื่องจากได้รับน้ำจากทางเหนือไหลทะลักลงมาบวกกับน้ำฝนที่ตกลงมา และน้ำป่าจากทางประเทศเพื่อนบ้านไหลมาสมทบ ทำให้น้ำในลำน้ำโขงหนุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และก็มีเศษสิ่งปฏิกูลไหลปะปนมากับน้ำโขง ทั้งเศษไม้ ท่อนไม้ ซากพืชซากสัตว์ที่เน่าตายเป็นจำนวนมาก จึงฝากเตือนผู้ใช้เรือเดินทางไปมาระหว่างลำแม่น้ำโขงของไทย-ลาว ให้ใช้ความระมัดระวังในการข้ามไปมา อาจไปชนเข้ากับสิ่งปฏิกูลทำให้เรือเสียหายหรืออับปางลงได้ และที่สำคัญในช่วงน้ำขึ้นนี้ปลาจากแม่น้ำโขงจะจับได้มากสร้างรายได้ให้กับชาวเรือที่ออกให้ปลามาจำหน่ายตามลำแม่น้ำโขงได้เป็นอย่างดี
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นอกจากนั้น ผู้ว่าฯได้สั่งการให้ทางอำเภอทางป้องกันอำเภอและป้องกันจังหวัดให้เฝ้าระวังอันตรายอาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากขึ้นได้ เตือนประชาชนที่อาศัยและปลูกบ้านเรือนอยู่ตามตลิ่งฝั่งแม่น้ำโขงให้ติดตามพยากรณ์อากาศจากทางอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และเฝ้าติดตามคำเตือนจากทางอำเภอและทางจังหวัด ซึ่งหากมีน้ำไหลหลากและท่วมฉับพลันจะได้อพยพได้ทันท่วงที แต่ในช่วงนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย มีเพียงพืชผักสวนครัวที่ปลูกตามริมตลิ่งและต้นกล้วยเป็นบางส่วนเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้เตรียมการรับมือไว้แล้วโดยเฝ้าติดตามระดับน้ำโขงจากทางหน่วยเหนือ หากมีน้ำไหลหลากทางจังหวัดที่อยู่ตอนเหนือกว่าจะมาถึงจังหวัดอำนาจเจริญใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 8-10 วันพอที่จะเตรียมการรับมือได้ทันท่วงที ฉะนั้นประชาชนจะต้องเฝ้าติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด
ที่มา : มติชนออนไลน์