ชลบุรี ติดโควิดรายใหม่นิวไฮรอบ 2 เดือน เฝ้าระวังที่ทำงาน-ร้านเหล้า

จีน พัฒนาชุดตรวจโควิดด้วย DNA แม่นยำเท่า RT-PCR รู้ผลใน 4 นาที
FILE PHOTO: REUTERS/Diego Vara

ชลบุรีนิวไฮติดเชื้อโควิดโอมิครอน รับติดเชื้อวงกว้างมากขึ้น  เฝ้าระวังสถานประกอบการ-ร้านอาหารขายเหล้าเบียร์ เข้มมาตรการตรวจ ATK ขอประชาชนเร่งฉีดวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกัน 

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เพจเฟซบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สสจ.ชลบุรี โพสต์ข้อความรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1,419 ราย แบ่งเป็น

  1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 64 ราย สะสม 2,227 ราย และจังหวัดอื่น ๆ รวมสะสม 507 ราย
  2. CLUSTER บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด อ.พานทอง 3 ราย สะสม 27 ราย
  3. CLUSTER บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด อ.ศรีราชา 3 ราย สะสม 110 ราย
  4. CLUSTER บริษัท วิศวกิจพัฒนา จำกัด อ.ศรีราชา 3 ราย สะสม 18 ราย
  5. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 40 ราย
  6. บุคลากรทางการแพทย์ 29 ราย
  7. มีประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด 24 ราย ดังนี้
  • ฉะเชิงเทรา 4 ราย
  • กทม. 3 ราย
  • จังหวัดเชียงใหม่ 3 ราย
  • แม่ฮ่องสอน 2 ราย
  • ศรีสะเกษ 2 ราย
  • สมุทรปราการ 2 ราย
  • กาญจนบุรี 1 ราย
  • ขอนแก่น 1 ราย
  • ชัยนาท 1 ราย
  • เชียงราย 1 ราย
  • นครนายก 1 ราย
  • นนทบุรี 1 ราย
  • ราชบุรี 1 ราย
  • สุพรรณบุรี 1 ราย
  1. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
  • ในครอบครัว 289 ราย
  • จากสถานที่ทำงาน 235 ราย
  • บุคคลใกล้ชิด 89 ราย
  • ร่วมวงสังสรรค์ 12 ราย

9.สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 58 ราย

10. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 570 ราย

เข็ม 3 ฉีดแล้ว 775,421 คน

โดย ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 775,421 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 4,218 คน (อัตราป่วย 543.96 ต่อแสนประชากร) ไม่มีปอดอับเสบ, ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย (0.13 ต่อแสนประชากร) และไม่มีเสียชีวิต

มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,883,519 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 8,142 คน (อัตราป่วย 432.28 ต่อแสนประชากร) ผู้ป่วยปอดอับเสบ 19 ราย (1.01 ต่อแสนประชากร), ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 5 ราย (0.27 ต่อแสนประชากร) และเสียชีวิต 6 ราย (0.32 ต่อแสนประชากร)

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 93,521 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 352,033 คน รวม 445,554 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 6,468 คน (อัตราป่วย 1,320.45 ต่อแสนประชากร), ผู้ป่วยปอดอับเสบ 19 ราย (4.26 ต่อแสนประชากร), ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 8 ราย (1.80 ต่อแสนประชากร) และเสียชีวิต 16 ราย (3.59 ต่อแสนประชากร)

สำหรับวันนี้ (25 ก.พ. 2565) พบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 1 ราย (พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564), ผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 1 ราย (พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2564), พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย (รายที่หนึ่งอายุ 51 ปี, รายที่สองอายุ 55 ปี) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ การมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2564, รายที่สองไม่พบประวัติการรับวัคซีน)

ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่สาม จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น

ระบาดร้านเหล้า-ที่ทำงานวงกว้าง

ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน และเริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร

  1. เลิกงานไม่สังสรรค์
  2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
  3. ป่วยต้องหยุด
  4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
  5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ อยู่ห่าง ๆ กัน

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม

ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้

แนะฉีดวัคซีน ไม่ต้องรอประเมินเป็นโรคประจำถิ่น

ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี

ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น

1.ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK

2.เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงต่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วย ATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว

3.ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน

4.สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชะลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ