หัวใจจะวาย บ้านหลังละพันล้าน

property
ภาพจาก : freepik
คอลัมน์ : สามัญสำนึก
ผู้เขียน : สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

วันก่อน ปัญหาครอบครัว ที่เป็นหน่วยเล็กที่สุดของสังคม เรื่องผัวเตี้ยขอมีโลกใบที่ 2 ยังไม่ซา

ปัญหาใหม่ก็ตามมา เมื่อกะเทยฟิลิปปินส์รุมตีกะเทยไทยสนั่นซอยสุขุมวิท 11 แบบ 20 ต่อ 4

ทำเอาทำเลย่านนั้นร้อนระอุ อีกหน่อยคงมีคนย่องไปเซลฟีสถานที่เป็นที่ระลึก

ขอแต่อย่าลามมาซอยคาวบอยแถวอโศกล่ะ โลกทั้งใบของชีวิตกลางคืนคนไทยฝังตัวอยู่ที่นั่น ตีกันเมื่อไหร่ ซอฟต์พาวเวอร์กระเจิงแน่ เบาได้เบา

ท่ามกลางเศรษฐกิจฝืดเคือง คนไทย 80% ที่หาเช้ากินค่ำยังมีอยู่จริง และต้องดำเนินชีวิตแบบปากกัดตีนถีบก็ยังมีให้เห็น ขอเอาใจช่วยคนขยันให้สู้ ๆ

เพราะมีเงินดีกว่าไม่มี มีชีวิตแล้วต้องประหยัดอยู่ร่ำไปก็น่าเห็นใจ

นาทีนี้ขอชื่นชม คุณดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ที่ออกมาพูดเรื่อง Influencer : เมื่อทุกคนในสังคมล้วนเป็นสื่อ

ซึ่งกำลังเป็นปัญหาสังคมเหมือนคลื่นยักษ์ที่ม้วนตัวตีกลับกระหน่ำสังคมไทยให้ยิ่งเจ็บยิ่งจน แถมอินฟลูเอนเซอร์ในบ้านเรามีเยอะซะด้วย ประมาณ 2 ล้านกว่าคน มากเป็นอันดับสองรองจากอินโดนีเซีย จากยอดรวม 13.5 ล้านคน ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC

ที่น่าตกใจหรือน่าสนใจไม่รู้ คืออาชีพนี้สร้างรายได้ได้สูงและเร็ว เฉลี่ย 800 บาท ถึง 7 แสนบาทอัพต่อการโพสต์ 1 ครั้งส่งผลให้ตลาด Content แข่งขันกันสูง เป็นคอนเทนต์แบบสร้างกระแส โดยไม่สนข้อเท็จจริงบนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง

ทำให้บิ๊กสภาพัฒน์ต้องออกโรงจี้รัฐบาลเร่งออกกฎหมายมาควบคุมโดยเร็ว ก่อนฟองสบู่แตก

ยิ่งยุคดอกเบี้ยแพง จีดีพีอ่อนแอ ทุกชีวิตจึงต้องดิ้นหนีตาย

แม้แต่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตระกูลดัง ๆ ก็แห่หนีตลาดที่ไม่ทำเงิน หันไปเจาะตลาดคนรวยแทน ไม่ต่างกับแบงก์ที่เลือกปล่อยสินเชื่อ ธุรกิจไม่มีผิดมีถูก เพราะกำไรคือความอยู่รอด เว้นแต่ผู้มีคุณธรรมเท่านั้นที่จะมาช่วยกอบกู้ประเทศให้อยู่รอด ซึ่งหาได้ยากมาก

ล่าสุด นักธุรกิจเริ่มมีการพูดถึงกลุ่มชนชั้นสูงที่มีฐานะ มีเงินฝากแบงก์มากกว่า 50 ล้านบาท เพราะสมัยนี้เงินสิบล้าน หลายคนบอกว่ามันธรรมดามาก

ยิ่งเป็นชนชั้นยอดพีระมิด ยิ่งน่าสนใจ อะไรที่ดูแพง สวย ดูดี
มีรสนิยมทั้งของกินของใช้ขายได้หมด เหมือนการบุกตลาดของหลุยส์วิตตอง แบรนด์หรูจากฝรั่งเศสที่มาเปิดคาเฟ่ระดับพรีเมี่ยมสุดในตึกใหม่ที่รีโนเวตมาจากตึกเก่าโซโก้ ย่านราชประสงค์

เค้กหรูขายในราคาต่ำสุดชิ้นละ 550 บาท จึงไม่แพงสำหรับบางคน ตอนแรกคิดว่า เค้กของเจ้าแม่ร้อยแบรนด์แห่งไอเบอรี่ว่าแพงแล้ว มาเจอเค้กหลุยส์ก็เริ่มเข้าใจ

แล้วมาเข้าใจมากขึ้นอีก เมื่อรู้ว่า ในประเทศไทยมีบ้านขายหลังละพันล้านบาทแล้วนะ ฟังแล้วหัวใจจะวาย

บ้านราคานี้มีอยู่จริง ๆ โดยหนุ่มหล่อไฮโซลูกหนึ่ง เมียหนึ่ง “กรณ์ ณรงค์เดช” เจ้าของบริษัทไรมอนแลนด์ ประกาศเจาะกลุ่มลูกค้าผู้มั่งคั่งสูง หรือที่เรียกว่า High Net Worth Individual : HNWI ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของการลงทุน

พอร์ตพร็อพเพอร์ตี้ ลักเซอรี่ ที่เราเคยเห็นเป็นข่าวในราคาหลังละ 100-550 ล้านบาท ดูจิ๊บ ๆ เป็นเบบี๋ในทันที

ทำเลทองฝังเพชรที่นักพัฒนารายนี้จะบุกไปก่อสร้างไปขายคือเกาะภูเก็ต แถวอ่าวกมลา แล้วก็ที่กรุงเทพฯ ในซอยพร้อมพงษ์-ทองหล่อ ช่วงสุขุมวิท 39-สุขุมวิท 55 และอีกโครงการจะไปปักหมุดอยู่กันที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่าเป็นระดับอัลตราลักเซอรี่ Recommend โดยทายาทรุ่นที่ 3 แห่งตระกูลพรประภา หลังเปิดออฟฟิศบิลดิ้งระดับ 3 A+ สูงที่สุดในไทยมาแล้ว แถวสี่แยกวิทยุ-เพลินจิต

คำว่า เศรษฐี อาจดูธรรมดาไป ต้องเติมว่า “มหา” เศรษฐีด้วย ถึงจะเป็นลูกค้าทาร์เก็ต

แล้วมาดูกัน จากนี้ไปการปิดขายโครงการจะเร็วร้อนแรงแค่ไหน ค่อยสรุปอีกที