มหากาพย์…ทางด่วนพระราม 3

คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ
ประเสริฐ จารึก

ดูท่าจะกลายเป็นมหากาพย์บทใหม่ โครงการประมูลก่อสร้างทางด่วนสายใหม่พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ที่ “กทพ.-การทางพิเศษแห่งประเทศไทย” ได้ระดมเงินกว่า 30,000 ล้านบาท จากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFF มาก่อสร้าง

ปมปัญหาเวลานี้ ไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เพราะมีมากองรออยู่ตรงหน้าตั้งแต่ปี 2561

แต่เป็นเรื่องการประมูลก่อสร้าง ซึ่งโครงการนี้ กทพ.ประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Bidding งานโยธา 4 สัญญา เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2562

ผลราคาที่ออกมา ทำให้ “กทพ.” สุดแสนดีใจ เพราะผู้รับเหมาจีนที่จับคู่กับรับเหมาไทย และขาใหญ่ในวงการ ดัมพ์ราคาลงมาต่ำกว่าราคากลาง ช่วยประหยัดเงินค่าก่อสร้างไปได้ร่วม 4,000 ล้านบาท

แต่ดีใจได้ไม่นาน ก็มีเรื่องยุ่ง ๆ ตามมาเมื่อโครงการติดหล่มปมผู้รับเหมาร้องอุทธรณ์คุณสมบัติและผลงานของผู้รับเหมาสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 ที่มีมูลค่างานไม่ถึงกับวงเงินที่กำหนดในทีโออาร์

ที่ผ่านมา กทพ.ใช้เวลากว่า 1 ปี หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมบัญชีกลาง เพื่อเคลียร์คัตปมร้องเรียน หวังเดินหน้าประกาศผู้ชนะทั้ง 2 สัญญาอย่างเป็นทางการได้เสียที

หลังเป็นตัวฉุดให้โครงการดีเลย์ 1 ปี แถมมีภาระดอกเบี้ย 8% ต้องจ่ายให้หน่วยกองทุนอีกปีละหลายพันล้านบาท

จากความคลุมเครือของทีโออาร์ ทำให้โครงการแทนที่จะได้เดินหน้าฉลุยอย่างที่วาดฝันไปแต่แรก กลับต้องเสียทั้ง “เวลา-เงิน” ไปโดยใช่เหตุ

ปัจจุบันทางด่วนสายนี้ตกอยู่ในสภาพ “ทางด่วนฟันหลอ” หลัง กทพ.ไม่รอให้เคลียร์จบทั้งโครงการ ลุยเซ็นสัญญาลงเสาเข็มก่อสร้างไปก่อน 2 สัญญา

เปิดไซต์ช่วงสัญญาที่ 2 เซ็นทรัลพระราม 2 ถึงโรงพยาบาลบางปะกอก 9 ได้กลุ่มไชน่าฮาร์เบอร์-ทิพากร-บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง เป็นผู้ก่อสร้าง กับสัญญาที่ 4 งานสะพานขึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อสร้างโดย บมจ.ช.การช่าง

อีก 2 สัญญาที่เหลือ รอเคลียร์ปมผลงานของกลุ่มไชน่าสเตทคอนสตรัคชั่น-เนาวรัตน์พัฒนาการ-เอ.เอส.แอสโซซิเอทฯ ผู้เสนอราคาต่ำสุด สัญญาที่ 1 จากแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เซ็นทรัลพระราม 2 และกลุ่มไชน่าเรลเวย์-ซีวิล-บุญชัย เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด สัญญาที่ 3 โรงพยาบาลบางปะกอก 9-ด่านดาวคะนอง

ล่าสุด “สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข” ผู้ว่าการ กทพ.คนใหม่ ผ่าทางตัน เตรียมยกเลิกประมูลทั้ง 2 สัญญา และเปิดประมูลใหม่ในต้นปี 2564 ยอมเสียเวลา 5-6 เดือนประมูลใหม่ ให้โครงการได้เดินหน้า ดีกว่าปล่อยให้คาราคาซังแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อย ๆ

แต่ว่ากันว่า ถึงล้มประมูลใหม่ เรื่องก็ไม่จบ เป็นหนังชีวิตม้วนยาวให้ติดตาม

เพราะแนวทางที่ “กรมบัญชีกลาง” ตอบกลับมายัง กทพ.ก็ไม่ได้ชี้ชัดให้ยกเลิก แต่ให้ กทพ.กลับมาพิจารณาใหม่

ในส่วนของผู้รับเหมาที่เสนอราคาต่ำสุดสัญญาที่ 3 ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว หลัง กทพ.ประกาศให้ผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นรายที่ 2 เป็นผู้ชนะ หลังคณะกรรมการอุทธรณ์ชี้ว่าขาดคุณสมบัติตามที่มีผู้อุทธรณ์จริง ตอนนี้รอลุ้นศาลปกครองจะรับหรือไม่รับคำฟ้องดังกล่าว

ส่วนสัญญาที่ 1 ยังรอคำตอบจากคณะกรรมการอุทธรณ์กรมบัญชีกลางชี้ขาดผลงานของผู้รับเหมา หากกรรมการชี้ว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน ไม่รู้จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองซ้ำรอยสัญญาที่ 3 หรือไม่

ด้าน กทพ.กำลังหาช่องรับมือทำหนังสือถามไปยังกรมบัญชีกลาง หากโครงการอยู่ในกระบวนของศาลจะสามารถเดินหน้าโครงการอย่างไรได้บ้าง หรือต้องหยุดรอคำสั่งจากศาลปกครองก่อน

ขณะเดียวกัน มีข่าวสะพัดผู้รับเหมาเสนอราคาต่ำเป็นที่ 2 ของสัญญาที่ 3 อาจจะหมดสิทธิได้งานเหมือนกัน เพราะเมื่อกรมบัญชีกลางรีเช็กผลงานแล้ว ปรากฏว่าผลงานรถไฟฟ้าสายสีแดง ณ วันที่ยื่นซองประมูล ยังสร้างไม่เสร็จ 100%

น่าติดตาม หากหวยออกแบบนี้ ไม่รู้ผู้รับเหมาเจ้านี้จะยื่นอุทธรณ์หรือจะยอมยกธงขาว

สิ่งสำคัญ “กทพ.” ต้องรีบสะสางปมต่าง ๆ ให้จบในเร็ววัน อย่าปล่อยให้อลวน อลเวง เหมือนที่ผ่านมา

เพราะดอกเบี้ยที่จ่ายเข้ากองทุน TFF จากการระดมเงิน มูลค่า 44,811 ล้านบาท สำหรับสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก วงเงิน 30,437 ล้านบาท และทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 และ E-W Corridor ด้านตะวันออก วงเงิน 14,382 ล้านบาทไม่หยุดตามโครงการ ยังต้องจ่าย 8% ทุกปี จากปี 2561-2563 มีภาระดอกเบี้ยรวม 5,000 ล้านบาท

ผลจากงานก่อสร้างทางด่วนพระราม 3 ไม่เป็นไปตามแผน ทำให้ “กทพ.” ต้องหาช่องบริหารต้นทุน ปลดแอกภาระไปบ้าง จากการนำเงิน 1,800 ล้านบาท จ่ายค่าก่อสร้างทางด่วนพระราม 3 ใน 2 สัญญาที่กำลังสร้าง และโยกไปจ่ายหนี้พันธบัตรรัฐบาล 1,800 ล้านบาท

หากยังแกะปมอีก 2 สัญญาของทางด่วนพระราม 3 ไม่จบ และเคลียร์ใจมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ปักตอม่อทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือช่วง N1 ที่พาดผ่านหน้ามหาวิทยาลัย เพื่อเปิดไซต์นำร่องตอกเข็มช่วง N2 ได้สำเร็จ

“กทพ.” ต้องก้มหน้ารับภาระดอกเบี้ยต่อไป ในเมื่อระดมทุนไว้รอ ทั้ง ๆ ที่โครงการยังไม่พร้อม

ต้องยอมรับสภาพ !