ยกระดับบริการรัฐ…ต้องทำต่อเนื่อง

บทบรรณาธิการ


ผลการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ หรือ Doing Business 2018 ของธนาคารโลก ให้ไทยได้อันดับที่ 26 เทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่อันดับ 46 จาก 190 ประเทศทั่วโลก โดยได้คะแนนรวม 77.44 คะแนน สูงกว่าปีก่อนที่ได้ 72.53 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน

ชี้ให้เห็นว่าผ่านไป 1 ปี การปรับแก้ไขกฎกติกา การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ลดกระบวนการขั้นตอนในการพิจารณาอนุญาต อนุมัติ จดแจ้ง จดทะเบียน ฯลฯ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ เริ่มเห็นผล ผู้ประกอบธุรกิจ นักลงทุน ที่ติดต่อขอใช้บริการหน่วยงานรัฐได้รับการบริการสะดวกรวดเร็วขึ้น

ส่งผลให้อันดับความยากง่าย หรือความสะดวกในการทำธุรกิจในไทย ขยับขึ้นรวดเดียว 20 อันดับ และเมื่อเทียบกับ 10 ชาติในอาเซียน ไทยเป็นรองแค่สิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งได้อันดับ 2 และ 24 ตามลำดับ

พิจารณาในรายละเอียดจาก 10 ดัชนีที่ใช้เป็นตัวชี้วัดครั้งนี้ ไทยได้คะแนนดีขึ้น 6 ด้าน คือ การเริ่มต้นธุรกิจ การขอใช้ไฟฟ้า การได้รับสินเชื่อ การคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อย การชำระภาษี และการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง ที่ได้คะแนนลดลง ได้แก่ การขออนุญาตก่อสร้าง การค้าระหว่างประเทศ การแก้ไขปัญหาล้มละลาย ขณะที่การจดทะเบียนทรัพย์สินได้คะแนนเท่าเดิม

ถือว่าการผนึกกำลังร่วมกันทำงาน ระหว่างทีมเศรษฐกิจรัฐบาลกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีผลงานเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ภารกิจต่อจากนี้ไปอาจยากยิ่งกว่าเพราะหากต้องการจะรักษามาตรฐานการทำงาน ยกระดับการบริการหน่วยงานรัฐไต่อันดับขึ้นเป็นประเทศที่สะดวกในการทำธุรกิจมากกว่านี้ จำเป็นต้องทำงานหนักและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพิ่มขึ้นอีก

ขณะเดียวกันก็ต้องแข่งขันกับเพื่อนบ้านในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม บรูไน ฯลฯ ที่ต่างปรับระบบ ยกระดับมาตรฐานบริการหน่วยงานรัฐจูงใจต่างชาติลงทุน เท่ากับต้องแข่งทั้งกับตัวเองและแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เวลานี้ล้วนต้องการไต่อันดับ Doing Business ดึงดูดการลงทุน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจภายในประเทศ

สำคัญที่สุดคือการดำเนินการดังกล่าวต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจ เพราะถ้าทำได้และเกิดผลในทางปฏิบัติเป็นรูปธรรม นอกจากนักลงทุนหน้าใหม่จะสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว กลุ่มที่ลงทุนอยู่ขณะนี้ก็คงไม่คิดจะย้ายฐานหนีไปไหน