คอลัมน์ เอชอาร์คอร์เนอร์
โดย ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
เมื่อวานนี้มีคนโทร.มาถามผมว่า…ทำไมพนักงานเข้าใหม่ถึงลาออกกันเยอะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงมาก ควรจะแก้อย่างไรดี ?
คำถามมีสั้น ๆ แค่นี้ ซึ่งในตอนนั้นความคิดของผมแวบขึ้นมาถึงเพลง ๆ หนึ่งของวงเฉลียง คือเพลง “อื่น ๆ อีกมากมาย” ขึ้นมาทันที
ตอนหนึ่งของเพลงนี้ “…เด็กหนีไม่ยอมเรียน โดดเรียนเพราะเหตุใด ลองตอบกันไหม เด็กไปเพราะใจเบ่ง แม่ให้ไปขายของ ครูสอนไม่ดีเอง เด็กรักเป็นนักเลง อื่น ๆ อีกมากมาย…”
ใครอยากรู้เนื้อหาเพิ่มเติมก็ไปฟังต่อใน YouTube เอาเองนะครับ
ที่จริงแล้วเพลง ๆ นี้บอกเราให้รู้ว่า เวลาจะแก้ปัญหาอะไรก็ตามต้องถามตัวเองว่า…เราหาตัวปัญหาและสาเหตุเจอแล้วหรือยัง ?
และที่สำคัญคือ…เราไม่ควรจะแก้ปัญหาด้วยอคติ ด้วยความรู้สึกแบบจิตสัมผัส หรือแก้ปัญหาโดยคิดไปเอง เออเอง สรุปเองนะครับ เพราะนอกจากจะทำให้การแก้ปัญหาผิดพลาดแล้ว ยังจะทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายได้อีกต่างหาก
อย่างคำถามนี้ก็เหมือนกัน ผู้ถามควรจะต้องกลับไปหาสาเหตุที่พนักงานเข้าใหม่ลาออกให้เจอเสียก่อนว่า สาเหตุน่าจะมาจากเหตุปัจจัยใดมากที่สุดแล้วค่อยคิดหาทางแก้ปัญหานี้ เช่น…
1.เกิดจากบริษัทของเราจ่ายค่าจ้างน้อยเกินไปหรือไม่ เมื่อผมถามคำถามนี้ออกไปก็ได้รับคำตอบว่าบริษัทของเราจ่ายค่าจ้างพนักงานเข้าใหม่สูงกว่าตลาด แต่คำถามต่อมาคือ แม้ว่าจะจ่ายสูงกว่าตลาดก็จริง บริษัทเคยสำรวจดูหรือยังว่าในโรงงานคู่แข่งแถวนั้นเขาจ่ายกันอยู่เท่าไหร่ หรือเขามีการจ่ายอะไรที่มากกว่าที่เราให้บ้าง เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นสาเหตุของการลาออกด้วย หรือไม่
2.นโยบายของฝ่ายบริหารเป็นอย่างไรบ้าง มีกฎระเบียบคำสั่งอะไรที่ทำให้พนักงานเข้าใหม่รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมบ้างหรือไม่
3.มีการให้สิทธิประโยชน์สวัสดิการอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับคู่แข่งหรือเทียบกับตลาดแล้วอยู่ตรงจุดไหนของตลาด
4.เขามีโอกาสจะเติบโตก้าวหน้าในอนาคตมาก-น้อยแค่ไหน เคยมีการทำ career path สำหรับตำแหน่งงานต่าง ๆ ไว้บ้างหรือเปล่า
5.สภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง มีบรรยากาศภายในที่ทำงานเป็นอย่างไร เช่น มีความร้อน, กลิ่น, แสง, เสียง ฯลฯ ที่ทำให้คนอยากจะทำงานไหม
6.หัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชามีการปฏิบัติเป็นอย่างไรบ้าง ทำงานด้วยกันเหมือนเพื่อนร่วมงานเหมือนพี่เหมือนน้อง หรือทำงานแบบเจ้านายใช้อารมณ์เป็นใหญ่ไม่ฟังเหตุผล หรือถนัดแต่ใช้อำนาจโดยไม่สนใจใคร นี่ก็มักจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกน้องลาออกไปได้อีกเหมือนกัน
7. ฯลฯ
ที่ผมยกตัวอย่างของสาเหตุข้างต้นมานี้เพื่ออยากจะให้ผู้ถามลองกลับไปค้นหาสาเหตุของปัญหานี้ให้เจอเสียก่อนว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งแต่ละบริษัทที่เจอปัญหาแบบนี้อาจจะมีสาเหตุของปัญหาที่แตกต่างกันไป วิธีแก้ไขก็อาจจะแตกต่างกันด้วย
ผมเป็นคนนอกคงไม่สามารถไปตอบคำถามนี้ได้ดีเท่ากับคนในที่รู้สาเหตุที่แท้จริงหรอกครับ
ซึ่งผมหวังว่าคงไม่ไปหาสาเหตุจากแบบสอบถามพนักงานลาออก (exit interview) เพียงอย่างเดียว แต่ควรหาสาเหตุจากตัวพนักงานที่ลาออกแบบไม่เป็นทางการ เช่น การพูดคุยแบบ off record ด้วย เพราะนี้จะทำให้ได้สาเหตุที่แท้จริงมากกว่าการอ่านใน exit interview ครับ
และสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ ไม่ควรด่วนสรุป หรือคิดไปเองว่าสาเหตุคือเรื่องนั้นเรื่องนี้จากอคติ หรือเราคิดไปเองนะครับ เพราะนั่นจะทำให้เราแก้ปัญหาผิดพลาดได้ง่าย ๆ
ถ้าเราติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อไปก็จะผิดตามไปเรื่อย ๆ แหละครับ
สุดท้ายคือกลับไปฟังเพลงอื่น ๆ อีกมากมายให้ขึ้นใจ เพื่อเตือนใจตัวเราพร้อมกับหาสาเหตุให้เจอ
เอาใจช่วยและขอให้แก้ปัญหาได้ตรงจุดนะครับ