“เดอะ ปาร์ค” อาคารยั่งยืน LEED เวอร์ชั่น 4 แห่งเดียวในไทย

Q Garden

LEED และ WELL คือมาตรฐานการรับรองชั้นนำระดับโลก ซึ่งจะ กลายเป็นมาตรฐานหลักสำหรับการก่อสร้างอาคารในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากผู้บริโภคแสวงหาความยั่งยืน และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเดอะ ปาร์ค (The PARQ) อาคารเพื่อการพาณิชย์ ที่พัฒนาโดยบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริหารงานโดยบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

โครงการนี้เป็นหนึ่งตัวอย่างในการสร้างโครงการมิกซ์ยูสที่ได้รับการพัฒนาภายใต้วิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน และสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย และผู้มาใช้บริการในอาคาร รวมถึงความอยู่ดีมีสุขของผู้คนมาตั้งแต่แรกเริ่ม

จนทำให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED Gold เวอร์ชั่น 4 BD+C (Building Design and Construction) : Core and Shell จาก GBCI อย่างเป็นทางการ และนับเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง LEED เวอร์ชั่นนี้

“กมลนัย ชัยเฉนียน” กรรมการบริหาร บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า The PARQ มีพื้นที่ทั่วทั้งอาคารกว่า 130,000 ตร.ม. เป็นอาคารพื้นที่สำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกอัจฉริยะ เพราะใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน ยึดเกณฑ์การประเมินเพื่อการรับรองมาตรฐาน LEED ทั้ง 7 ด้าน ในการบริหารจัดการอาคารและดำเนินงาน ได้แก่

หนึ่ง ทำเล และการเดินทาง – สะดวกด้วยระบบขนส่งมวลชน และส่งเสริมการใช้พาหนะส่วนบุคคลรูปแบบที่ยั่งยืน ด้วยบริการอย่างจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีที่จอดรถจักรยาน และห้องอาบน้ำ

สอง ผังบริเวณที่ยั่งยืน – มีพื้นที่โล่งแจ้งและพื้นที่สีเขียว ปูผิวทางและหลังคาด้วยวัสดุสีอ่อนเพื่อบรรเทาความร้อน

สาม การจัดการน้ำ – ติดตั้งสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำได้ถึง 40% ใช้ประโยชน์จากน้ำเสียที่บำบัดไปรดน้ำต้นไม้ด้วยระบบหยด

สี่ การใช้พลังงานและสภาพแวดล้อม – เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงใช้กระจกกันความร้อนที่ส่วนหน้าอาคาร สามารถลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ถึง 75% และใช้ผนังอาคารกันความร้อน ระบบควบคุมแสงเซ็นเซอร์ และระบบทำความเย็นที่สามารถควบคุมผ่านโทรศัพท์มือถือ

ห้า วัสดุและทรัพยากร – คัดเลือกโดยคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการเปิดเผยข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ข้อมูลส่วนผสมรีไซเคิล ข้อมูลการปล่อยสารพิษ และผลกระทบต่อระบบนิเวศ

หก คุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร – มีปริมาณอากาศบริสุทธิ์ที่วัดค่าได้สูงกว่าค่ามาตรฐานสากลถึง 30% มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับการไหลเวียนของอากาศและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กระจกหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาในพื้นที่ได้ถึง 40% พร้อมกรองความร้อนจากแสงอาทิตย์

เจ็ด การใช้นวัตกรรม – มีการติดตั้งหลอดไฟอัลตราไวโอเลตเพื่อฆ่าเชื้อโรค (UVGI) และมีระบบติดตามการเดินทางเข้าออกในอาคาร เพื่อตรวจสอบจำนวนที่จอดรถ นับจำนวนผู้เข้ามาทำงานและผู้ใช้บริการในอาคาร และตรวจสอบรูปแบบการใช้ยานพาหนะ พร้อมความถี่ในการเข้าออกอาคาร และใช้เทคโนโลยีไร้สัมผัสต่าง ๆ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 เช่น ระบบชำระเงินด้วยรหัส QR เครื่องแลกเปลี่ยนบัตรเข้าออกอาคารอัตโนมัติ และมาตรการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก

“ณัฐนี วงศ์วีระนนท์ชัย” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า The PARQ ถูกพัฒนาภายใต้วิสัยทัศน์ Life Well Balanced มุ่งสรรค์สร้างพื้นที่มิกซ์ยูสที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและปฏิวัติรูปแบบของการทำงานและการใช้ชีวิตในเมือง

“นอกจากการรับรองมาตรฐาน LEED Gold เวอร์ชั่น 4 เรายังได้รับมาตรฐานอาคาร WELL จากสถาบัน International WELL Building Institute ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงสุดที่ใช้กับการออกแบบอาคารและพื้นที่ภายในชุมชน”

“มุ่งเน้นส่วนประกอบเพื่อการใช้งาน สร้างให้เกิดความสมบูรณ์ และการวัดผลที่สนับสนุนและพัฒนาสุขภาพและสวัสดิภาพของมนุษย์ เฟรเซอร์ตั้งเป้าการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ และผสานนวัตกรรมเข้าไปในอาคารเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดูแลสิ่งแวดล้อม และใช้ทรัพยากร วัสดุก่อสร้างอย่างรู้คุณค่า พร้อมผลักดันคุณค่าความยั่งยืน”

“รวมทั้งรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ลดการใช้น้ำ ลดการใช้พลังงาน และมีการบริหารจัดการขยะ ให้ความสำคัญกับมนุษย์ คำนึงถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัย”

“โกปาลักริชนัน ปัทมานาภาน” กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง Green Business Certification Inc. (GBCI) กล่าวว่า LEED เป็นระบบการจัดเรตติ้งที่คิดขึ้นโดยสภาการก่อสร้างอาคารสีเขียวแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Green Building Council-USGBC) เพื่อประเมินผลงานด้านสิ่งแวดล้อมของอาคาร และส่งเสริมวงการให้เปลี่ยนผ่านไปสู่การออกแบบที่ยั่งยืน

“LEED จึงเป็นมาตรฐานอาคารสีเขียวที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก โดยมีโครงการเชิงพาณิชย์ที่จดทะเบียนและได้รับการรับรองมากกว่า 110,000 โครงการใน 182 ประเทศและเขตการปกครอง ซึ่งการได้รับรองมาตรฐาน LEED ของ The PARQ สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านอาคารสีเขียวอย่างเด่นชัด”

“ในฐานะผู้บุกเบิกด้านมาตรฐาน LEED และ WELL ในไทย นับว่า The PARQ ปูทางให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตในระยะยาวของประเทศไทย ทั้งยังช่วยสร้างวิสัยทัศน์ของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางธุรกิจระดับภูมิภาคที่ยั่งยืนต่อไป”

นับว่าน่าสนใจทีเดียว