จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ส.ค. 65 ฟื้น เพิ่มขึ้น 33% จำนวน 7,418 ราย

ก่อสร้าง
Photo : Pixabay

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือน ส.ค. 65 ฟื้นตัว มีจำนวน 7,418 ราย เพิ่ม 33% เหตุเศรษฐกิจฟื้น คนมั่นใจทำธุรกิจเพิ่ม ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ยังติดอันดับ 3 ต่อเนื่อง 7 เดือนติด ส่วนยอดเลิก 1,941 ราย เพิ่ม 65% รวม 7 เดือน ตั้งใหม่ 53,577 ราย เลิก 9,493 ราย คาดช่วงที่เหลือบริษัทตั้งใหม่ยังมีแนวโน้มดี ทั้งปี 68,000-72,000 ราย

วันที่ 28 กันยายน 2565 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน ส.ค. 2565 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 7,418 ราย เทียบกับ ก.ค. 2565 เพิ่มขึ้น 27% และเทียบกับ ส.ค. 2564 เพิ่มขึ้น 33% โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 24,393.41 ล้านบาท และประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่กลับมาติดอันดับ 3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ

ทศพล ทังสุบุตร
ทศพล ทังสุบุตร

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,941 ราย เมื่อเทียบกับ ก.ค. 2565 เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับ ส.ค. 2564 เพิ่มขึ้น 65% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 12,503.99 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

ทั้งนี้ ยอดรวมการจดทะเบียนตั้งใหม่ 8 เดือนปี 2565 (ม.ค.-ส.ค.) มีจำนวน 53,577 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 334,109.56 ล้านบาท และยอดเลิกกิจการ รวม 9,493 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวน 78,163.99 ล้านบาท

ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการจัดตั้งบริษัทใหม่ มาจากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น โรงเรียน มหาวิทยาลัย จัดการเรียนการสอนตามปกติ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การท่องเที่ยวฟื้นฟู และการเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปี ทำให้คนมีความมั่นใจในการลงทุนเพื่อประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2562-2564) พบว่าจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จะมีการจดทะเบียนสูงสุดในช่วงไตรมาสแรก และลดลงในไตรมาสที่ 2 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 และลดลงอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 ทำให้กรมคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 68,000-72,000 ราย

ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ส.ค. 2565) จำนวน 849,410 ราย มูลค่าทุน 20.39 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 203,074 ราย คิดเป็น 23.91% บริษัทจำกัด จำนวน 644,971 ราย คิดเป็น 75.93% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,365 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

ส่วนการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนสิงหาคม 2565 พบว่ามีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้นมีจำนวน 58 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจจำนวน 19 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจจำนวน 39 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,647 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 (มกราคม-สิงหาคม 2565) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้นจำนวน 381 ราย เพิ่มขึ้น 15% เงินลงทุน 83,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มกราคม-สิงหาคม 2564)

นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 14 ราย เงินลงทุน 3,927 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวน 9 ราย เงินลงทุน 49 ล้านบาท และสิงคโปร์ จำนวน 6 ราย เงินลงทุน 96 ล้านบาท ตามลำดับ