สหรัฐ ประกาศเก็บอากรเอดี กุ้งแช่แข็ง จากไทยต่ออีก 5 ปี

กุ้ง
แฟ้มภาพ

สหรัฐประกาศผลลงคะแนนเสียงทบทวนการเก็บอากรเอดีกุ้งแช่แข็งจากไทย รวมอินเดีย จีน เวียดนาม ต่ออีก 5 ปี หลังจากเก็บมาตั้งแต่ปี 2548 ให้เหตุผล ถ้ายกเลิกจะทำให้ความเสียหายของอุตสาหกรรมกุ้งในสหรัฐเกิดขึ้นต่อเนื่อง

วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ (USITC) ได้ประกาศผลการลงคะแนนเสียงพิจารณาทบทวนการเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) กุ้งน้ำอุ่นแช่เยือกแข็งที่นำเข้าจากอินเดีย จีน ไทย และเวียดนาม หรือ Sunset Review รอบที่ 3 หลังจากใช้มาตรการมาแล้วครบ 3 รอบ ๆ ละ 5 ปี หรือใช้มาตรการมาตั้งแต่ปี 2548

โดยมีมติไม่ยกเลิกเก็บอากรเอดี เพราะการยกเลิกจะทำให้ความเสียหายของผู้เลี้ยงกุ้ง และอุตสาหกรรมกุ้งในสหรัฐเกิดขึ้นต่อไป หรือฟื้นคืนจากการนำเข้า

ดังนั้น สินค้าจาก 4 ประเทศยังต้องเสียอากรเอดีในการนำเข้าสหรัฐต่อไปอีก 5 ปี จนกว่าจะพิจารณาทบทวนรอบที่ 4 ในเดือนมิถุนายน 2571 ซึ่งในส่วนของไทยล่าสุดเสียอากรเอดีที่ 0.57-5.34% จากอัตราที่จัดเก็บครั้งแรกที่ 5.29-6.82%

ทั้งนี้ การเก็บภาษีเอดีกุ้งจาก 4 ประเทศ สหรัฐได้พิจารณาทบทวนอัตราภาษีที่จัดเก็บเป็นประจำทุกปี ล่าสุดเป็นการทบทวนรอบที่ 18 โดยเปิดให้บริษัทที่ถูกเรียกเก็บอากรเอดี ยื่นคำขอเพื่อเปิดการทบทวนมาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2566 และจะประกาศผลการทบทวนชั้นที่สุดเดือน ก.พ. 2567

สำหรับการทบทวนรอบที่ 3 อุตสาหกรรมกุ้งในสหรัฐและนักการเมือง 5 รายจากรัฐเลี้ยงกุ้ง ได้แก่ หลุยเซียนา มิสสิสซิปปี และเทกซัส ได้ยื่นคำร้องต่อ USITC เพื่อให้ขยายเวลาการเก็บอารต่อไป โดยให้เหตุผลว่า อุตสาหกรรมผลิตกุ้งสหรัฐไม่เข้มแข็งพอที่จะแข่งขันกับกุ้งนำเข้าจาก 4 ประเทศ ที่ยังวางขายในราคาต่ำกว่ากุ้งที่ผลิตได้ในสหรัฐ หาก USITC ยกเลิกการเก็บภาษีจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง เพราะกุ้งนำเข้าจะบีบให้กุ้งที่ผลิตในสหรัฐต้องลดราคาลงจนถึงระดับที่ไม่สามารถอยู่รอดได้ และอุตสาหกรรมผลิตกุ้งสหรัฐอาจล้มละลาย

นอกจากนี้ USITC ยังอยู่ระหว่างการเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าชั้นวางของเหล็กอเนกประสงค์จาก 5 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย ไต้หวัน เวียดนาม และไทย โดยผลการไต่สวนเบื้องต้น พบว่าสินค้าจากมาเลเซีย ไต้หวัน เวียดนาม และไทย ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในของสหรัฐ และสินค้าจากอินเดียเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมของสหรัฐ เพราะมีการขายในสหรัฐในราคาต่ำ

ทั้งนี้ ตามกฎหมายสหรัฐจะต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 2567 และขยายระยะเวลาได้อีก 6 เดือน หากการไต่สวนชั้นสุดท้าย พบว่าสินค้าจากไทยทำให้ผู้ผลิตสหรัฐเสียหายจริง ก็จะประกาศเรียกเก็บอากรเอดีต่อไป