เปิดร่าง พ.ร.บ.สุกร และเนื้อสุกร ดูแลอะไรบ้าง

พ.ร.บ.สุกร
ภาพจาก PIXABAY

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เตรียมผลักดันกฎหมาย  พ.ร.บ.สุกรและเนื้อสุกร ตั้งกองทุนสุกรและเนื้อสุกร ห้ามนำเข้าพร้อมดูแลโครงสร้างราคาทั้งระบบ

วันที่ 23 มกราคม 2567 ในการประชุมคณะกรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ครั้งแรก เมื่อ 22 มกราคม 2567 นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เตรียมผลักดันกฎหมาย เพื่อการจัดการอุตสาหกรรมสุกรให้มีกฎเกณฑ์ที่ประสานประโยชน์ ให้กับผู้เลี้ยงสุกรทุกกลุ่ม ผู้ประกอบการค้าสุกรทั้งสุกรมีชีวิต ผู้จำหน่ายปลีกเนื้อสุกร ให้ได้รับความยุติธรรม เสมอภาคและเท่าเทียม

และเพื่อให้ภาคปศุสัตว์ไทย เป็นเครื่องจักรเศรษฐกิจหลักของการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศที่สอดคล้องทั้งยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566-2570)

เปิดเจตนารมณ์กฎหมาย

สำหรับเจตนารมณ์ พระราชบัญญัตินี้ประกอบด้วย

1.ให้อุตสาหกรรมสุกรเป็นเศรษฐกิจหลักหนึ่งของประเทศ ที่ภาครัฐควรรับรู้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยกำหนดให้ฝ่ายบริหารภาครัฐเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการสุกรและเนื้อสุกรแห่งชาติ (มาตรา 13) เพราะตลอดระยะเวลาแห่งการสูญเสียของการประสบปัญหาการขาดทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงในหลาย ๆ ครั้ง

และที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ภาครัฐยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือน้อยมากกว่าที่ควรจะเป็น เพราะการเกษตรปศุสัตว์เป็นเกษตรที่สามารถกำหนดการผลิตได้อย่างชัดเจน จากมาตรฐานการเลี้ยงของไทยที่เข้าสู่ภาคบังคับแล้วในปัจจุบัน

2.ตั้งกองทุนสุกรและเนื้อสุกรเกี่ยวโยงกับงบประมาณแผ่นดิน โดยกองทุนหลักมาจากการเก็บเงินสมทบจากผู้เลี้ยง ผู้ค้า ผู้แปรรูป ผู้ส่งออก และผู้นำเข้า เพื่อนำมาใช้บริหารจัดการอุตสาหกรรมสุกรทั้งระบบ (มาตรา 18) ให้มีดุลยภาพที่ไม่ส่งผลลบต่อราคา โดยเฉพาะราคาสุกรขุนหน้าฟาร์ม

3.บัญญัติการห้ามนำเข้าอย่างชัดเจนเป็นข้อกฎหมาย โดยมีข้อยกเว้นกรณีมีเหตุจำเป็น (มาตรา 27, 28) เพื่อบริหารจัดการสมดุลของตลาดถึงแม้บางส่วนจะต้องมีการนำเข้าตามความจำเป็น เช่น เครื่องในสุกร เช่น ตับสุกรเพื่อการจำหน่ายที่ผลผลิตในประเทศมีเพียงประมาณ 30,000 เมตริกตันต่อปี ไส้สุกรสำหรับอุตสาหกรรมไส้กรอก หนังสุกรสำหรับอุตสาหกรรมแคปหมูและเครื่องหนัง

4.มีโครงสร้างการกำหนดราคาขั้นต้นราคาสุกรและเนื้อสุกรเพื่อสร้างความยุติธรรม ระหว่างผู้เลี้ยง ผู้ค้า ผู้แปรรูป ผู้ส่งออก และผู้บริโภค (มาตรา 29 (5)) โดยเฉพาะราคาสุกรขุนหน้าฟาร์ม และราคาเนื้อสุกรที่เป็นเนื้อแดงพื้นฐาน เช่น ส่วนสะโพก ส่วนหัวไหล่ โดยจะไม่ครอบคลุมไปถึงส่วนเนื้อตัดแต่งและสินค้าระดับพรีเมี่ยมที่เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกของผู้บริโภค

5.มีบัญญัติการกำหนดปริมาณการผลิตตามประมาณการความต้องการการบริโภค ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างชัดเจน มีการจัดสัดส่วนการเพิ่มการผลิตอย่างเป็นธรรมตามฐานของปริมาณการผลิตตั้งต้น เพื่อป้องกันการครอบครองตลาดเกินควร เว้นแต่มีการสร้างตลาดใหม่ที่ไม่ได้ไปครอบงำตลาดเดิมของผู้เลี้ยงสุกรด้วยกัน (มาตรา 29 (3)) โดยคณะกรรมการสุกรและเนื้อสุกรจะนำข้อมูลความต้องการบริโภค ตลาดแปรรูป ตลาดส่งออก มาเป็นตัวตั้งที่นำมากำหนดปริมาณการผลิตในแต่ละปี

6.บัญญัติให้มีการขึ้นทะเบียนฟาร์ม ขึ้นทะเบียนกลุ่มผู้เลี้ยงต่อคณะกรรมการเพื่อง่ายต่อการวางแผนการผลิตในแต่ละปี (มาตรา 25) โดยมีบทบัญญัติการให้เป็นสมาชิกรวมกลุ่มที่มีสภาพทางกฎหมาย เช่น กลุ่มสหกรณ์การเกษตร เพื่อบริหารจัดการเพื่อการต่อยอดในลักษณะเดียวกับบริษัทการเกษตรครบวงจรทั่วไป เพื่อกระจายความเสี่ยงอย่างบูรณาการ

7.ให้อำนาจหน้าที่กับพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานคณะกรรมการกองทุนสุกรและเนื้อสุกรที่เป็นหน่วยงานของรัฐเข้าตรวจสอบฟาร์มสุกรต้องสงสัยว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดได้ (มาตรา 50 (1) (2)) เช่น มีจำนวนแม่พันธุ์ สุกรขุน มากกว่าที่รายงานจำนวนประชากรสุกรต่อคณะกรรมการ เนื่องจากการประกอบอาชีพสินค้าโภคภัณฑ์จะต้องมีตัวเลขที่ชัดเจน ตลาดชัดเจน

8.บัญญัติบทลงโทษทางอาญาในกรณีที่ผู้เลี้ยง ผู้ค้า ผู้แปรรูป ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของคณะกรรมการ (มาตรา 60 ถึง 64)

9.มีการตั้งสำนักงานคณะกรรมการกองทุนสุกรและเนื้อสุกร ที่มีการบัญชี การตรวจสอบ และการประเมินการดำเนินงานของสำนักงาน (มาตรา 39)

10.ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศมีส่วนร่วมในการเข้ามาเป็นตัวแทนกรรมการที่มีทั้ง 3 คณะกรรมการ 1) คณะกรรมการสุกรและเนื้อสุกรแห่งชาติ (มาตรา 8) 2) คณะกรรมการกองทุนสุกรและเนื้อสุกร (มาตรา 19) 3) คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและกำหนดราคาสุกรและเนื้อสุกร (มาตรา 29)

ขั้นตอนการพิจารณา

สำหรับขั้นตอนในการพิจารณา

1.คณะกรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศ

  1. คณะทำงานกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

3.คณะรัฐมนตรี

4.สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือ รัฐสภา

ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ประกาศใช้)

ทั้งนี้ เปิดโอกาศให้ผู้มีส่วนในวงการสุกรทุกขนาดทุกกลุ่มสามารถเสนอตัวเข้าร่วมเป็นกรรมการพิจารณารายมาตราเบื้องต้น สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ โทร.0-2136-4797 อีเมล์ [email protected]

พ.ร.บ.สุกร

 

พ.ร.บ.สุกร

พ.ร.บ.สุกร

พ.ร.บ.สุกร