สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ร่วมหารือหน่วยงานรัฐ แก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำในประเทศตกต่ำ พร้อมเปิดข้อเสนอการเก็บค่าธรรมนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศ
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย (Thai Tuna Industry Association) ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ครั้งที่ 2/2567 ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง โดยมีคุณบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวประมงยกระดับราคาสินค้าสัตว์น้ำ การควบคุมตรวจสอบย้อนกลับสินค้าประมงนำเข้า
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
พร้อมทั้งได้หารือแนวทางอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมนำสัตว์หรือซากสัตว์น้ำ เข้ามาในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มอบหมายให้กรมประมงหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
พิจารณาอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมและเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย และพิจารณาระบบการควบคุมตรวจสอบย้อนกลับสินค้าประมงนำเข้า เพื่อควบคุมสินค้าประมงนำเข้าที่ผิดกฎหมาย และแนวทางช่วยเหลือยกระดับราคาสินค้าสัตว์น้ำในประเทศไทย
นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย กล่าวว่า สมาคมได้ให้ความเห็นในที่ประชุม ดังนี้
การเก็บค่าธรรมเนียมซากสัตว์น้ำควรมีอัตราการเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่สูงเกินไป เพราะไม่ได้เป็นการช่วยเหลือราคาสินค้าให้กับชาวประมงที่เดือดร้อนโดยตรง และค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บได้ก็ไม่ได้ส่งให้กรมประมงทั้งหมด สุดท้ายถ้าหากเกิดปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ
ทางผู้ประกอบการก็ไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวประมงได้ เพราะมีต้นทุนจากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น หากต้นทุนสูงขึ้นจะกระทบต่อการส่งออก และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวม และการจ้างงานของประเทศด้วย
สนับสนุนนโยบายการควบคุมการนำเข้าที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม เพื่อยกระดับราคาสินค้าสัตว์น้ำให้ดีขึ้น เห็นด้วยกับการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด ต้องควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ผิดกฎหมาย สินค้าเถื่อน, ผิดกฎ IUU เป็นต้น เห็นด้วยกับการสร้างสมดุลยภาพและความเป็นธรรมด้านราคาให้กับ ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดตั้งแต่ ชาวประมง, อุตสาหกรรม, ค้าปลีก-ค้าส่ง ตลอดจนผู้บริโภค
อุตสาหกรรมทูน่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการนำเข้า-ส่งออกมากที่สุด เป็นรายใหญ่ที่สุดด้านอุตสาหกรรมประมง และจ่ายภาษีให้ประเทศมากที่สุด โดยยินดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือเกษตรกรชาวประมงให้เกิดความเป็นธรรมตามนโยบาย รมว.เกษตรฯ
ข้อเสนอเก็บค่าธรรมเนียม
นอกจากนี้ ข้อเสนอสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ต่อการเก็บค่าธรรมเนียมและแนวทางแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ดังนี้
(1) เรื่องค่าธรรมเนียม (ร่าง) กฎกระทรวงฯ;
1.1 ตามข้อ(ค) ซากสัตว์เพื่อการบริโภคของคนที่อยู่ในการควบคุมดูแลของกรมประมง ในส่วนของสินค้าปลาทูน่า ซาร์ดีน แมคเคอเรล สมาคมเห็นว่าการเก็บค่าธรรมเนียมไม่ควรเกิน 5 สตางค์ เนื่องด้วยการนำเข้าวัตถุดิบปลาดังกล่าวส่วนใหญ่ไม่สามารถจับในประเทศได้ อีกทั้ง ไม่มีความเสี่ยงต่อโรคระบาดในสัตว์น้ำ และที่ผ่านมาไม่เคยมีการตรวจโรค หรือควบคุมโรค อุตสาหกรรมทูน่าเป็นการนำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออก ปีละเกือบ 1 ล้านตัน เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้ประเทศปีละกว่า 150,000 ล้านบาท รวมถึงมีการจ้างงานในอุตสาหกรรมกว่า 100,000 คน
(2) เรื่องการช่วยเหลือราคาสัตว์น้ำตกต่ำ;
2.1 สมาคมฯ เสนอการจัดทำ MOU ร่วมกับชาวประมง (สมาคมประมงอวนล้อมจับประเทศไทย) ที่เกี่ยวข้องกับปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน แมคเคอเรล ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือและช่วยเหลือร่วมกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว
2.2 สมาคมฯ จะรับซื้อปลาจากเรือประมงไทย เฉพาะที่กรมประมงตรวจสอบแล้ว ไม่เป็น IUU และต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
2.3 เสนอให้เชิญผู้ค้าปลีก-ค้าส่ง เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำด้วย เพราะเป็นผู้ซื้อปลายทาง เพื่อให้รับทราบสถานการณ์และหารือแนวทางการช่วยเหลือชาวประมงในประเทศ โดยมีกรมประมงเป็นคนกลาง