กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยสถิติจดทะเบียนบริษัทใหม่ปี 61 ทั้งปีอยู่ที่ 72,109 ราย ลดลง 3% ทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่มูลค่า 3.74 แสนล้านบาท ลดลง 28% หลังรัฐลดมาตรการสนับสนุนการจัดตั้งนิติบุคคล ตั้งเป้าปี 62 มีบริษัทตั้งใหม่ไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นราย ตามเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลกที่ขยายตัว
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ภาพรวมการจดธุรกิจตั้งใหม่ของปี 2561 มีผู้ประกอบการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศมีจำนวน 72,109 ราย ลดลง 3% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2560 ที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งจำนวน 74,517 ราย ทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่มูลค่า 3.74 แสนล้านบาท ลดลง 28% โดยล่าสุดสถิติการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือน ธ.ค.2561 มีจำนวน 5,539 ราย ลดลง 35% เป็นไปตามภาวะการจดทะเบียนที่ช่วงเดือนสุดท้ายของทุกปีมีจำนวนน้อย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ส่วนธุรกิจเลิกกิจการในเดือน ธ.ค.2561 มีจำนวน 2,482 ราย ลดลง 4% ทำให้ภาพรวมทั้งปี 2561 มีธุรกิจเลิกกิจการรวม 21,775 ราย เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2560 ที่มีจำนวนเลิกกิจการ 21,444 ราย โดยมีมูลค่าทุนเลิกกิจการ 2.17 หมื่นล้านบาท ลดลง 1% ซึ่งธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 2,042 ราย รองลงมา คือ อสังหาริมทรัพย์ 1,269 ราย และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร 566 ราย
สาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนธุรกิจในปี 2561 ลดลง เนื่องจากในปี 2560 กระทรวงการคลังมีมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการจดทะเบียนนิติบุคคล เช่น การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนนิติกรรมที่ดิน แต่ปี 2561 ได้ลดความเข้มข้นของมาตรการเหล่านี้ลง ทำให้การจดทะเบียนไม่คึกคักเหมือนปี 2560 แต่ภาพรวม ถือว่าลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยประเภทธุรกิจที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรกในปี 2561 ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 6,578 ราย รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 4,394 ราย และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร จำนวน 2,058 ราย
“คาดการณ์ยอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจปีนี้ใกล้เคียงกับปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 70,000 ราย จากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ 3.5-4.5% ตามการคาดการณ์ของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ที่ 3.8% แต่ยังต้องพิจารณาปัจจัยเสี่ยงทั้ง ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ และความชัดเจนทางการเมือง ที่ล้วนแต่มีผลต่อการจดจัดตั้งธุรกิจใหม่ได้เช่นกัน” นายวุฒิไกรกล่าว