นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) คร้ังท่ี 3/2562 ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้า 4 โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใน EEC คือ
1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จากัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) เป็น ผู้ยื่นข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนท่ีผ่านการพิจารณา ซึ่งจะบรรลุข้อตกลงในการเจรจาภายใน 25 เม.ย. นี้ จากนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะจัดส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนท่ีเจรจากับผู้ผ่านการประเมินให้สำนักงาน อัยการสูงสุดตรวจพิจารณา ตามด้วย สกพอ. จะเสนอผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนให้ กพอ. พิจารณาเสนอ ครม. คาดว่าการลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนที่ได้รับการคัดเลือก จะเสร็จภายในเดือน พ.ค.
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก มีผู้ยื่นข้อเสนอ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส (BBS Joint Venture), กลุ่ม Grand Consortium, กลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้ง จากัด และพันธมิตร ขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกฯ อยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอ คาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอแล้วเสร็จ และประกาศผลผู้ผ่านการประเมินที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุดได้ภายใน พ.ค.
3.โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะท่ี 3 มีเอกชนยื่นข้อเสนอ 1 กลุ่มคือ กลุ่มกิจการร่วมค้า ได้แก่ กัลฟ์และพีทีทีแทงค์ ขณะน้ีคณะกรรมการคัดเลือกอยู่ระหว่างการ ประเมินข้อเสนอ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเจรจากับภาคเอกชนได้ภายในเดือน เม.ย. 2562
4.โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F เอกชนยื่นข้อเสนอ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า จีพีซี (กลุ่ม GPC), กลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี (กลุ่ม NCP) โดยอยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.
ซึ่งทั้ง 4 โครงการมีคาดว่ามีมูลค่าการลงทุนถึง 650,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรมตามมาใน EEC ถึง 300,000 ล้านบาท/ปี และจะเป็นตัวดันเศรษฐกิจได้ 0.8-1% ต่อปี
“ยอมรับว่าโครงการใน EEC ล่าช้าไป2เดือน เพราะระหว่างจั้นตอนการทำงานเราเจออุปสรรคบ้าง แต่แน่นอนว่า 3 โครงการ คือ โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส3, ท่าเรือแหลมฉบังเฟส3 , สนามบินอู่ตะเภาและอมืองการบิน นี้จะเข้าที่ประชุม กพอ. อีกครั้งในวันที่ 15 พ.ค.2562 และนำเข้าเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ทันในเดือน พ.ค. ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะพิจารณาเสร็จในเดือน มิ.ย.”
นอกจากนี้โครงการ EEC ด้วยเป็นโครงการขนาดใหญ่ ทางด้านกฎหมายได้มีการกำหนดและร่างกฎหมายขึ้นมาอย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเดียวกันกับโครงการโฮปเวลล์