พณ. เสนอ กนศ. ซึ่งมีนายกเป็นประธานตั้ง วอร์รูม เพื่อติดตามปัญหาสงครามการค้า

พณ. เสนอ กนศ. ซึ่งมีนายกเป็นประธานตั้ง วอร์รูม เพื่อติดตามปัญหาสงครามการค้า ขณะที่ 31 พ.ค. นี้ประชุมทูตพาณิชย์ พร้อมเคาะเป้าส่งออกปี 62

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เชิญภาคเอกชนเพื่อหาแนวทางการรับมือสงครามการค้า รวมไปถึงปัญหาและอุปสรรคการค้า การส่งออกและแผนรับมือต่างๆ ซึ่งมี นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานที่ประชุม ทั้งนี้ ผลการหารือคาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่ที่กระชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ซึ่งมีนายกเป็นประธาน ในวันที่ 11 มิถุนายน 2562 นี้ รวมไปถึงนำไปหารือร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 โดยมีรองนายกเป็นประธาน

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในครั้งนี้จะร่วมกันประเมินสถานการณ์การค้าตั้งแต่เริ่มสงครามการค้า จนถึงปัจจุบันว่าได้รับผลกระทบอะไร สินค้าใดบ้าง โดยตัวเลขล่าสุดสำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประเทศไทบยตั้งแต่เริ่มสงครามการค้ากระทั่งปัจจุบัน ส่งผลกระทบทางการค้าไปแล้ว 1.9% ของภาคการส่งออก แต่นังไม่กระทบสูงนัก ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลดี เช่น รองเท้า เคมีภัณฑ์ เครื่องแต่งกาย ที่โอกาสขยายตัว ส่วนกลุ่มที่เฝ้าระวังแต่สามารถปรับตัวได้ ก็ให้สรุปและหารือในการผลักดันให้ส่งออกขยายตัว พร้อมหาแผนรับมือต่อไป

อย่างไรก็ดี ก็ต้องเตรียมแผนระยะสั้น คือ รุกตลาดใหม่ให้มากขึ้น หามาตรการป้องกันตัวเองและติดตามเฝ้าระวังการสวมสิทธิ์สินค้าไทย ส่วนนะยะยาว เร่งเจรจา FTA เพื่อไม่ให้เกิดการเสียบเปรียบด้านการค้า ทบทวนปรับโครงสร้างสินค้า การลงทุนเพื่อการแข่งขัน โดยข้อสรุปทั้งหมดจะนำไปเสนอ กนศ. เพื่อตั้งวอร์รูม ในรูปแบบเอกชน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วแต่เป็นการร่วมงานรัฐ เพื่อให้มีการแก้ไขและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการคาดการณ์การส่งออกต้องรอหารือในการประชุมทูตพาณิชย์ต่อไป

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ร่วมมือกับสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ 18 กลุ่มจังหวัด คัดเลือกสินค้าชุมชน ที่ได้รับการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าเพื่อนำมาต่อยอดออกสู่ตลาดต่างประเทศ รวม 50 รายการ จัดให้พาณิชย์จังหวัดพร้อมผู้ประกอบการพบทูตพาณิชย์ เพื่อร่วมหาช่องทางในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ซึ่งจากการหารือร่วมกันทำให้เห็นโอกาสในกลุ่มสินค้าหลายรายการที่มีศักยภาพในการผลักดันการส่งออก ซึ่งเชื่อว่าจะเพิ่มมูลค่าและเห็นการส่งออกได้ภายในปี 2562 นี้