จุรินทร์ นั่ง กกร.นัดแรก สั่งเข้มราคาปุ๋ย – จัดทำเกณฑ์ตั้งมิเตอร์น้ำมันปาล์ม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่า ด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 4/2562 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ว่า ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบให้กรมการค้าภายในติดตามการจำหน่ายราคาจำหน่ายปุ๋ยทั่วประเทศมีความสมเหตุสมผลและเป็นธรรมต่อเกษตรกรหรือไม่ เนื่องจากปุ๋ยเป็นต้นทุนสำคัญในการเพาะปลูกสินค้าเกษตร ที่จะยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรได้ ดังนั้น ได้ให้กรมการค้าภายในไปติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

นอกกจากนี้ ที่ประชุมยังพิจารณาให้ผู้รับซื้อสินค้าเกษตรให้มีการปิดป้ายแสดงราคาพืชผลทางการเกษตรในจุดรับซื้ออซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ในช่วงเวลา 08.00 น. จากเดิมที่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อในช่วงบ่ายหรือเย็นของวันนั้น ทั้งนี้ เห็นว่าต้องการให้ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อในช่วงเช้าเพื่อให้เกษตรกร โดยเฉพาะผู้ปลูกลำไย มีโอกาสที่จะพิจารณาว่าจะตัดมาจำหน่ายหรือไม่ โดยเห็นแนวโน้มว่าราคาดีจะได้พิจารณาตัดเพื่อนำออกมาจำหน่ายต่อไป ที่ประชุมยังพิจารณากำหนดจังหวัดเพิ่มเติมเพื่อขออนุมัติในการขนย้ายมะพร้าวสด แห้ง เนื้อมะพร้าวจากเดิม 7 จังหวัด 10 อำเภอ เป็น 8 จังหวัด 16 อำเภอ โดยเพิ่มจังหวัดปัตตานีเข้าไปด้วย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศ โดยผู้ที่จะทำการขนย้ายจะต้องขออนุญาตขนย้ายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น และต้องระบุด้วยว่าขนย้ายจากที่ไหนไปที่ไหน ซื้อจากแหล่งใด ปัจจุบันราคามะพร้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 8-10 บาทต่ลูก อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์เตรียมเชิญผู้ประกอบการ เกษตรกรที่เกี่ยวข้องกับมะพร้าวร่วมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาพร้อมกับการเพิ่มมาตรการดูแลในวันที่ 27 สิงหาคม 2562 นี้

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติให้กรมการค้าภายใน ดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์ในการเข้าไปติดตั้งมิเตอร์ที่แท็งน้ำมันปาล์ม เพื่อจะได้ติดตามสถานการณ์สต็อกน้ำมันปาล์มได้ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณในการติดตั้ง 500 ล้านบาท ซึ่งจะติดตั้งแท็งน้ำมันปาล์มทั่วประเทศประมาณ 450 แท็ง โดยจะต้องแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน จากการดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) และการติดตั้งโดยหน่วยงานของภาครัฐเนื่องจากไปพิจารณาตามข้อกำหมายต่างๆแล้วไม่มีอำนาจทางกฎหมายที่จะให้เอกชนดำเนินการติดตั้งได้

ดังนั้น จึงเห็นว่าหน่วยงานรัฐเป็นผู้ดำเนินการดีที่สุด อีกทั้ง ข้อมูลที่ได้รับการรายงานก็จะเป็นขอ้มูลจริงอและเชื่อถือได้มากสุด สำหรับสต็อกน้ำมันปาล์มปัจจุบันอยู่ที่ 450.000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 300,000 ตัน นอกจากนี้ ที่ประชุม กกร. ยังได้รายงานผลการชี้แจงราคายาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาลเอกชน 354 แห่ง ปัจุบันพบว่า มีโรงพยาบาลแจ้งราคายาและเวชภัณฑ์เข้ามาแล้ว 334 ราย ในจำนวนนี้มี 322 ราย แจ้งข้อมูลราคายามาครบถ้วน เหลือเพียง 12 รายที่ยังแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วน

ทั้งนี้ ยังเหลืออีก 15 รายที่ไม่แจ้งข้อมูลมาแต่อย่างไรก็ดี กรมการค้าภายในได้ทำหนังสือเชิยเพื่อเข้ามาชี้แจงแล้วซึ่งกำหนดให้เข้ามาชี้แจงโดยเร็ว และจำนวนนี้มี 5 รายที่ไม่รู้สาเหตุไม่แจ้งข้อมูลติดต่อไม่ได้ ขณะที่ การดำเนินการเรื่องของการติดตั้ง คิวอาร์โค้ด ตามโรงพยาบาลอกชน มีโรงพยาบาลที่สามารถเข้าดูคิวอาร์โค้ดได้แล้ว 307 ราย และพบว่ามีผู้ป่วย ผู้เข้าใช้บริการ เข้าดูราคายาแล้วกว่าเฉลี่ย 10,000 รายต่อวัน