บูมส่งออกทุเรียนแช่เยือกแข็ง “ประภัตร” เร่งดันมาตรฐาน GAP อัดสินเชื่อหนุนเกษตรกร 3 ปี

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ภาคตะวันออกให้ได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) สำหรับพืชอาหาร (มกษ.9001-2556) ปี 2563 เพื่อพัฒนาให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนจังหวัดตราด มีความรู้ความเข้าใจในหลักการปลูกทุเรียนให้ได้ตามมาตรฐาน GAP สามารถผลิตทุเรียนได้มีคุณภาพ มีความปลอดภัย ตรงตามความต้องการของตลาด และผู้บริโภค รวมถึงสามารถขายผลผลิตทุเรียนผ่านระบบตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ ห้างโมเดิร์นเทรด และโรงงานผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็งเพื่อการส่งออกตามมาตรฐานบังคับ เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับการผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็ง (มกษ. 9046-2560)

โดยล่าสุด กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนท่ากุ่ม-เนินทราย ตำบลท่ากุ่ม อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด ได้เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีเกษตรกรสมาชิกได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตร สร้างเกษตรกรต้นแบบในพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทุเรียน และสนับสนุนการแสดงเครื่องหมาย Q การสร้างเอกลักษณ์และเรื่องราว (Story) ของทุเรียนกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนท่ากุ่ม-เนินทราย ได้นำร่องการใช้ QR Trace เพื่อแสดงถึงการผลิตทุเรียนที่ได้มาตรฐานและสามารถตามสอบแหล่งที่มาได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค สร้างความแตกต่างของสินค้า เพิ่มช่องทางการตลาด โดยมีการเชื่อมโยงตลาดสู่ห้างโมเดิร์นเทรด และโรงงานผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็งเพื่อการส่งออกตามมาตรฐานบังคับ เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับการผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็ง และขยายทางเลือกในการจำหน่ายผลผลิตทุเรียนผ่านระบบตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ผ่านแพลทฟอร์ม DGTFarm.com

“การปลูกทุเรียนในภาคตะวันออกนับว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทาง มกอช. จึงเข้ามาส่งเสริมสินค้าได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ โดยการติดสัญลักษณ์ Q ส่งเสริมราคา และล่าสุด ครม.เห็นชอบอนุมัติวงเงิน 50,000 ล้านบาท ให้เกษตรกรได้มีอาชีพใหม่ที่สร้างรายได้ที่มั่นคง ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ มุ่งเน้นสามารถขายทั้งภายในและต่างประเทศ โดยมีตลาดรองรับเ้วย อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อไม่เกินกลุ่มละ 10 ล้านบาท หรือดอกเบี้ยล้านละ 100 บาท/ปี ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 62 – 30 พ.ย. 65”

ด้าน ดร.จูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการ มกอช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการฯ ในปี 2563 มกอช. ให้ความสำคัญในการพัฒนาต่อยอดด้านการตลาด เน้นการเพิ่มมูลค่า สร้างความแตกต่าง และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทำให้สินค้าทุเรียนยังคงมีคุณภาพได้มาตรฐาน และมีเนื้อสัมผัสตามที่ผู้บริโภคต้องการ โดยเพิ่มรายละเอียดในสติ๊กเกอร์สำหรับแสดงเครื่องหมาย Q สามารถ สามารถตามตรวจสอบแหล่งที่มาของผลผลิตทุเรียนได้โดยการสแกน QR Trace ทั้งนี้ ยังได้เชื่อมโยงตลาดระหว่างเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนแปลงใหญ่กับโรงงานผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็งเพื่อการส่งออกตามมาตรฐานบังคับ เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับการผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็ง (มกษ. 9046-2560) ทั้งนี้แม้ปีนี้มีการระบาดโควิด-19 ส่งผลต่อคำสั่งซื้อผลไม้จากต่างประเทศในบางพื้นที่ มกอช. ได้ศึกษาวิธีการขนส่งที่เหมาะสมให้กับเกษตรกรแปลงใหญ่ที่มีความสนใจจำหน่ายสินค้าทุเรียนผ่านทางออนไลนทำให้ทุเรียนตะวันออกปีนี้ได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากเช่นเดียวกับทุกปี