เศรษฐกิจในประเทศ

“เกรียงศักดิ์” เต็ง ผอ.องค์การคลังสินค้า ลุยสางคดีเร่งสร้างรายได้

เกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต
ภาพ : สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

ชงบอร์ด อคส. เคาะเลือก “เกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต” อดีต CFO บมจ.EFORL ขึ้นว่าที่ ผอ. หลังเฉือนชนะ 5 คน ลุยงานสางคดีค้าง-เร่งเครื่องสร้างรายได้

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า หลังจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เปิดรับสมัครคัดเลือกผู้มารับตำแหน่งผู้อำนวยการ สิ้นสุดลงไปในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้มาสมัครทั้งหมด 6 คน แต่ได้สละสิทธิ์ไปจำนวน 2 คน เหลือผู้มาแสดงวิสัยทัศน์ 4 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ที่คาดว่าจะได้รับการเสนอชื่อให้เป็น ผอ.คนใหม่ คือ นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต แทน นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ อดีตผู้อำนวยการ ที่หมดวาระไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา

โดยภารกิจสำคัญของ ผอ.คนใหม่ จะต้องเร่งสะสางคดีค้างของ อคส.ที่เกี่ยวกับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว และเร่งพัฒนาองค์กร และสร้างรายได้ให้ อคส. ทั้งนี้คาดว่าผลสรุปจะผ่านการประชุมบอร์ดในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ก่อนเสนอที่ประชุม ครม.เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินงานในได้ภายในเดือนกันยายน 2563

สำหรับประวัติการทำงานของนายเกรียงศักดิ์ มีประสบการณ์เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การเงิน ของบริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ (EFORL) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 โดยบริษัทนี้เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ความงามและสุขภาพ มีบริษัทย่อย 3 บริษัท คือ บริษัท สเปซเมด จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในบ้าน อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิค อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ธุรกิจด้านบริการเสริมความงาม และบริษัท สยามสเนล จำกัด เป็นธุรกิจที่จัดจำหน่ายเครื่องสำอางจากเมือกหอยทาก

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน และในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ อคส. เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมนำเสนอผลการคัดเลือกให้ที่ประชุมคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) พิจารณา ในวันที่ 26 สิงหาคม 2563 นี้

สำหรับการรับสมัครคัดเลือก ผอ.อคส. ประกาศเมื่อวันที่ 1-15 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นการประกาศรอบที่ 2 จากที่เคยเปิดรับสมัครไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยคุณสมบัติทั่วไปจะต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 60 ปี ไม่เคยล้มละลาย ไม่เคยมีโทษจำคุก ขณะที่คุณสมบัติพิเศษจะต้องมีความรู้และประสบการณ์ในการบริหารองค์กรใหญ่ ไม่ต่ำกว่า 2 ปี ที่เป็นองค์กรที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทต่อปี มีวิสัยทัศน์ทางด้านการบริหารพัฒนาองค์กรและการปรับเปลี่ยนบทบาทของ อคส. มีความรู้ด้านคลังสินค้า โลจิสติกส์ สินค้าเกษตร เป็นต้น