จากพายุไลออนร็อกสู่จับตา “คมปาซุ” ปะทะลมมรสุมวันที่ 12-16 ต.ค. 64 กว่า 16 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำหลากและล้นตลิ่งคาดมี 16 จังหวัด พร้อมเฝ้าระวังน้ำมาก 17 แห่ง ขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปรับเพิ่มการระบายน้ำ 100-300 ลบ.ม./วิ ประชาชนท้ายเขื่อนเตรียมน้ำเพิ่มสูง 2.5 เมตร
วันที่ 14 ตุลาคม 2564 นายธฤต ลิขิตภิญโญ วิศวกรชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาประเมินอิทธิพลพายุโซนร้อน “คมปาซุ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 230 กม. ทางตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ และจะอ่อนกำลังลง ทำให้ไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประกอบกับในช่วงวันที่ 12-16 ต.ค. 64 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
ขณะที่สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ เนื่องจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักมากบางแห่งและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยปริมาณน้ำทั้งประเทศ 57,003 ล้าน ลบ.ม. (69%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 50,251 ล้าน ลบ.ม. (70%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง
และมีพื้นที่เฝ้าระวังน้ำมาก เกินเกณฑ์ จำนวน 17 แห่ง (บึงบอระเพ็ด หนองหารกุมภวาปี อ่างแม่มอก อ่างแควน้อยบำรุงแดน อ่างป่าสักชลสิทธิ์ อ่างทับเสลา อางกระเสียว อ่างจุฬาภรณ์ อ่างอุบลรัตน์ อ่างลำตะคอง อ่างลำพระเพลิง อ่างมูลบน อ่าง ลำนางรอง อ่างขุนด่านปราการชล อ่างนฤบดินทรจินดา และอ่างหนองปลาไหล)
วานนี้ กอนช.จึงได้ออกประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 13-20 ต.ค. 64 ดังนี้ เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม บริเวณภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี ภาคใต้ จ.ระนอง และพังงา
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง และสถานการณ์น้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น บริเวณแม่น้ำมูล อ.ประโคนชัย อ.สตึก อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อ.เมืองศรีสะเกษ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ แม่น้ำป่าสัก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี แม่น้ำลพบุรี อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี แม่น้ำท่าจีน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
“อิทธิพลพายุโซนร้อน “คมปาซุ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 230 กม. ทางตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ และจะอ่อนกำลังลง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประกอบกับในช่วงวันที่ 12-16 ต.ค. 64 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง”
สำหรับผลกระทบในขณะนี้ กอนช.พบมีดังนี้ จังหวัดจันทบุรี เกิดสถานการณน้ำหลากในหลายพื้นที่ คาดว่าปริมาณน้ำจากตอนบนของลุ่มน้ำ จะเคลื่อนตัวถึงเมืองจันทรบุรีในวันนี้ ส่วนปริมาณน้ำบริเวณ อ.มะขาม มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.เมืองจันทบุรี ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 30 ซม.
ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปรับเพิ่มการระบายน้ำโดยทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จากอัตรา 100-300 ลบ.ม./วิ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 13 ต.ค. 64 เป็นต้นไป เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2-2.5 ม. ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด