เบทาโกร เคาะราคาหุ้นไอพีโอ 40 บาท เปิดจองซื้อ 10-17, 20-25 ต.ค.

หุ้นไทย
PHOTO : Liza Summer From Pexels

เบทาโกร หรือหุ้นไอพีโอน้องใหม่ “BTG” เคาะราคา IPO หุ้นละ 40 บาท เปิดจองซื้อกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญเดิม-บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ บุคคลที่มีความสัมพันธ์-ผู้มีอุปการคุณวันที่ 10 -17 ต.ค. กลุ่มผู้ลงทุนสถาบัน 20-25 ต.ค. มีมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท ระดับ P/E 21.9 เท่า (รวมกรีนชู)

วันที่ 4 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า ข้อมูลไฟลิ่ง ของบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BTG ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ได้มีการกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโออยู่ที่หุ้นละ 40 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 5 บาทต่อหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายไม่เกิน 434.8 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 22.5% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

โดยมีมูลค่าเสนอขายรวม 17,392 ล้านบาท ในกรณีที่ไม่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน หรือมีมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน

โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยบริษัทในครั้งนี้ได้มีการกำหนดราคาเสนอขายที่ 40 บาทต่อหุ้น โดยหากพิจารณากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565) ซึ่งเท่ากับ 3,650.1 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดจำนวน 1,934.8 ล้านหุ้น

ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (บนสมมติฐานว่ามีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดจำนวน 434.8 ล้านหุ้น และไม่รวมกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 1.89 บาทต่อหุ้น และ P/E ประมาณ 21.2 เท่า

นอกจากนี้ หากภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้มีจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดจำนวน 2,000 ล้านหุ้น (บนสมมุติฐานว่ามีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดจำนวน 434.8 ล้านหุ้น และมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวน 65.2 ล้านหุ้น) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 1.83 บาทต่อหุ้น และ P/E ประมาณ 21.9 เท่า

มูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) อยู่ที่ 12.64 บาทต่อหุ้น คำนวณจากส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินรวมของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ซึ่งเท่ากับ 18,957.4 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จำนวน 1,500 ล้านหุ้น

และ 9.48 บาทต่อหุ้น คำนวณจากส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินรวมของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ซึ่งเท่ากับ 18,957.4 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท หลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน) จำนวน 2,000 ล้านหุ้น (Fully diluted)
มีระยะเวลาการเสนอขายสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของบริษัทบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัท พนักงานของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อยของบริษัท และผู้มีอุปการคุณของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อยของบริษัท ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 17 ตุลาคม 2565

และสำหรับผู้ลงทุนสถาบันที่จองซื้อในประเทศ (รวมถึงผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ที่จองซื้อในประเทศ) นิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ และผู้ลงทุนที่จองซื้อในต่างประเทศ (รวมถึงผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ที่จองซื้อในต่างประเทศ) ผ่านผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchaser) ระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2565