รมช.คลัง แจงเงิน 50 ล้านบาท เยียวยาชาวไร่ยาสูบไม่ได้หาย ชี้เป็นเงินก้อนใหม่ ต้องดูแลประชาชนอีกรอบ 120 ล้านบาท ฝั่งสำนักงบฯเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการเยียวยาตั้งแต่ในอดีต
วันที่ 18 ตุลาคม 2565 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีเงินเยียวยาชาวไร่ยาสูบหายไป 50 ล้านบาทนั้น เรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจผิด โดยเงินก้อนนี้เป็นเงินก้อนใหม่ที่ทางการยาสูบกำลังทำเรื่องเสนอมายังกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอของบฯกลางจากสำนักงบประมาณนำไปเยียวยาชาวไร่ยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดการผลิตของการยาสูบในปี 2564-2565
โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังอำเภอหล่มหลัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเกษตรกรชาวไร่ยาสูบได้เสนอขอให้รัฐบาลเยียวยาอีก 50 ล้านบาท จากนั้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางนายกรัฐมนตรีก็ได้ไปของบประมาณจากผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ขณะที่ทางผู้อำนวยการการยาสูบแจ้งว่า ทางการยาสูบได้จ่ายเยียวยาไปหมดแล้ว ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงสงสัยว่าเงินจำนวน 50 ล้านบาท หายไปไหน
“เมื่อนายกฯกลับมาแล้ว ในวันอังคารที่ผ่านมา นายกฯก็เดินไปคุยกับ ผอ.สำนักงบฯว่า ชาวไร่ขอหนุนเงินเยียวยาที่การยาสูบมีไม่พอ ให้ทางสำนักงบฯจัดให้ แต่ทาง ผอ.การยาสูบ ก็ไปจำเอาความจำเก่าว่าให้ไปหมดแล้ว แต่มันคนละปี ก็เป็นความเข้าใจผิด หลังจากนั้น สื่อก็ไปลงว่าเงินหายไป 50 ล้าน ในวันนั้น นายกฯก็ถามว่า ใครดูแลยาสูบ ก็เป็นท่านสันติเอง แล้วเงินมันหายไปไหน”
ทั้งนี้ นับจากที่การยาสูบลดกำลังการผลิตลง ทำให้เกษตรกรชาวไร่ยาสูบได้รับผลกระทบ โดยลดการผลิตลงถึง 70% ซึ่งรัฐบาล โดยการยาสูบก็ได้จ่ายเงินเยียวยาให้แก่เกษตรกรชาวไร่ดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา รวมเป็นเงินกว่า 159 ล้านบาท แต่ในปี 2564-2565 ชาวไร่ยาสูบยังไม่ได้รับการเยียวยา จึงได้มีการร้องขอมา
“จริง ๆ เงินไม่ได้หาย เป็นตัวเลขใหม่ ทางการยาสูบกำลังขอเข้ามาผ่านคลัง ตอนนี้ยังมาไม่ถึง เมื่อมาถึงแล้ว ท่านอาคมคงเซ็นขอไปยังสำนักงบฯ ฉะนั้นเงิน 50 กว่าล้านบาท กำลังผ่านกระบวนการ น่าจะใช้เวลาขอประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งในการประชุมวันนี้ ทางท่านนายกฯก็ได้แจ้งที่ประชุมใหม่แล้วว่า เงินไม่ได้หายไปไหน แต่เป็นเงินที่ขอเยียวยาใหม่”
ทั้งนี้ เงินเยียวยาในปี 2564-2565 จะอยู่ที่ประมาณ 120 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินของการยาสูบประมาณ 60 ล้านบาท และกำลังขอจากสำนักงบฯอีกประมาณกว่า 50 ล้านบาท