IMPACT โชว์สินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานพุ่งเกือบ 500% โกยรายได้เพิ่ม 170% หลังเปิดพื้นที่ให้บริการได้ตามปกติ เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล งวดเดือน ม.ค.-มี.ค. 66 อีก 0.14 บาทต่อหน่วย ปิดสมุด 2 มิ.ย. 66 จ่ายประโยชน์ตอบแทน 16 มิ.ย. 66
วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็ค โกรท (IMPACT) ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 ว่า กองทรัสต์ฯ มีการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน 963.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 802.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 498.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
- พายุลูกใหม่จ่อเข้าไทย ชี้ความรุนแรงเท่า “เตี้ยนหมู่” ระวังน้ำท่วมใหญ่
- กรมอุตุฯเตือน “พายุดีเปรสชั่น” เข้าไทย รับมือฝนตกหนัก-ท่วมฉับพลัน
- นายกฯตั้งบอร์ดใหญ่คุมแจกเงิน 10,000 บาท ห้าง-โมเดิร์นเทรดรับอานิสงส์
1) รายได้รวม 1,779.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,120.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 170.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกองทรัสต์ฯ สามารถเปิดให้บริการพื้นที่ได้ตามปกติ
2) ค่าใช้จ่ายรวม 827.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 65.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากการเพิ่มขึ้นของคำใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนี้
– ต้นทุนการให้บริการพื้นที่ 233.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 176.2 เนื่องจากกองทรัสต์ฯ สามารถเปิดให้บริการพื้นที่ได้ตามปกติ
– ค่าธรรมเนียมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ 186.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 187.7 เนื่องจากกองทรัสต์ฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
– ค่าธรรมเนียมผู้จัดการกองทรัสต์ 102.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.6
– ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 171.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.1
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 มีมติอนุมัติให้จ่ายประโยชน์ระหว่างกาลของกองทรัสต์ฯ สำหรับผลประกอบการเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 จำนวน 207.55 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.14 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิรับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 2 มิถุนายน 2566 และกำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทน ในวันที่ 16 มิถุนายน 2566
โดยกองทรัสต์ฯ จ่ายประโยชน์ตอบแทนประจำปี 2565/2566 ในอัตราหน่วยละ 0.60 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 889.08 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการจ่ายประโยชน์ตอบแทนระหว่างกาล มีรายละเอียดดังนี้
– ไตรมาสที่ 1 สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2565 ในอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย โดยจ่ายเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565
– ไตรมาสที่ 2 สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2565 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหน่วย โดยจ่ายเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565
-ไตรมาสที่ 3 สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2565 ในอัตรา 0.21 บาทต่อหน่วย โดยจ่ายเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566
– ไตรมาสที่ 4 สำหรับผลการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2566 ในอัตรา 0.14 บาทต่อหน่วย โดยจะจ่ายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566
