อ่านใจแบงก์ชาติ ขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือรอก่อน ?

ธปท.แบงก์ชาติ ธนาคารขึ้นดอกเบี้ย

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประชุมพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งต่อไป ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ซึ่งเริ่มมีการมองกันถึงการ “ชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย” เพื่อรอดูสถานการณ์ เนื่องจากขณะนี้อัตราเงินเฟ้อของไทยลดลงแล้ว

“ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล” กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ชี้ว่า ขณะนี้สถานการณ์เงินเฟ้อของประเทศไทยถือว่าจบแล้ว โดยล่าสุดเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.23% กลับมาอยู่ที่ระดับฐาน

ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารสดและพลังงาน ก็อยู่ที่ประมาณ 1.3% อยู่ในเป้าหมาย 1-3% ถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อแล้ว

“ธปท.ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ ธปท.จะเป็นการขึ้นเพื่อกลับสู่เรตที่เหมาะสม ซึ่งคิดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2-3% ซึ่งการประชุมวันที่ 2 ส.ค. ผมคิดว่าเขาจะขึ้นอีกครั้งหนึ่งไปที่ 2.25% และอาจขึ้นได้อีกครั้งไปที่ 2.5% ขึ้นกับเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย การคาดการณ์ตัวเลขต่าง ๆ” ดร.กอบศักดิ์กล่าว

ขณะที่ “ดร.อมรเทพ จาวะลา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ทิศทางดอกเบี้ยจากนี้ คงต้องดูว่า ธปท.คิดอย่างไรในเรื่องของดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งมีหลายปัจจัย อย่างแรก เงินเฟ้อ

โดย ธปท.มองว่าเงินเฟ้ออาจจะขยับขึ้นอีกจากอุปสงค์ในประเทศที่เริ่มดีขึ้น การท่องเที่ยว และภาคบริการเริ่มฟื้นตัว สอง ดอกเบี้ยที่แท้จริงเริ่มเป็นบวก แต่ ธปท.น่าจะอยากเห็นเป็นบวกมากกว่านี้ และสาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหากชัดเจนมากขึ้น ก็เป็นโอกาสขยับดอกเบี้ยขึ้นอีกได้

“ต้องจับตาให้ดีว่า ระหว่างการประชุม กนง. ที่จะมีขึ้นหลังจากนี้ไป กว่าจะถึงก็ต้นเดือน ส.ค. ระหว่างนี้ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่” ดร.อมรเทพกล่าว

ด้าน “ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ” รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร และกลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า คาดว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง เป็น 2.50% โดยเชื่อว่า ธปท.จะให้ความสำคัญกับเรื่องเงินเฟ้อในอนาคต ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ทาง EIC ก็มองว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจในระยะยาว (Neutral rate)

“เรต 2.5% แปลว่า ดอกเบี้ยที่แท้จริงจะกลับไปเป็นศูนย์ จากวันนี้ ยังติดลบอยู่ประมาณ -2% กว่า ๆ กลับไปเป็นศูนย์ก็พอ ไม่ต้องเป็นบวก เพราะไม่อย่างนั้น จะดึงเศรษฐกิจ และเราคาดว่าดอกเบี้ยแท้จริงจะกลับมาเป็นศูนย์ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และปี 2567 เราจะเห็นดอกเบี้ยของไทยทรงตัวอยู่ระดับนี้ เพราะเศรษฐกิจโลกน่าจะ soft landing” ดร.สมประวิณกล่าว