กรุงศรีฯ คาดเงินบาทซื้อขาย 35.25-35.90 บาท เกาะติดประชุมธนาคารกลางหลัก

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 35.25-35.90 บาทต่อดอลลาร์ ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐ และประชุมธนาคารกลางหลัก ด้านเงินเยนพักตัวหลังจากอ่อนค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน เหตุบีโอเจส่งสัญญาณยุติดอกเบี้ยต่ำ

วันที่ 12 ธันวาคม 2566 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.25-35.90 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 35.31 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายผันผวนในช่วง 34.68-35.40 บาทต่อดอลลาร์

โดยเงินดอลลาร์ฟื้นตัวเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ยกเว้นเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยค่าเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า บีโอเจมีทางเลือกว่าจะกำหนดเป้าหมายไปที่ดอกเบี้ยประเภทใด เมื่อถึงเวลาที่จะยุติการใช้ดอกเบี้ยติดลบ พร้อมระบุว่า การดำเนินนโยบายจะเผชิญความท้าทายมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า

ทำให้นักลงทุนตีความว่า ทางการญี่ปุ่นอาจจะเตรียมส่งสัญญาณในอนาคตอันใกล้ว่าจะยกเลิกการใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี 2559 โดยผู้ร่วมตลาดบางส่วนคาดว่าบีโอเจอาจตัดสินใจส่งสัญญาณปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติในการประชุมในวันที่ 18-19 ธ.ค.

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 4,763 ล้านบาท และ 1,523 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี เผยว่า จุดสนใจจะอยู่ที่ข้อมูลเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ของสหรัฐและการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 12-13 ธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ขณะที่ตลาดจะติดตามประมาณการเศรษฐกิจและดอกเบี้ย (Dot Plot) ชุดใหม่ ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐเอื้อให้เฟดสื่อสารว่าตลาดคาดการณ์เร็วเกินไปสำหรับจังหวะการเริ่มลดดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ดอลลาร์ได้แรงหนุนช่วงสั้นและเงินเยนพักตัว อย่างไรก็ดี เรามั่นใจมากขึ้นว่าแนวโน้มระยะยาว

สำหรับการอ่อนค่าของเงินเยนตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้กลับทิศแล้วเนื่องจากความแตกต่างด้านนโยบายการเงินระหว่างญี่ปุ่นกับโลกกำลังแคบลง นอกจากนี้ คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะคงดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดยอีซีบีจะพบความยากลำบากในการทำให้ตลาดเชื่อว่าอีซีบีจะใช้นโยบายตึงตัวไปอีกนานหากเงินเฟ้อยูโรโซนมีแนวโน้มกลับสู่เป้าหมายในปีหน้า เราจึงมองว่าเงินยูโรอาจอ่อนค่าลงต่อเนื่องในระยะนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศ เงินเฟ้อทั่วไปของไทยแตะระดับต่ำสุดรอบ 33 เดือน โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ย. ของไทยลดลง 0.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.58% เนื่องจากมาตรการภาครัฐ เราคงมุมมองที่ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% เป็นระดับสูงสุดของวัฏจักรแล้ว