คอลัมน์ : Smart SMEs ผู้เขียน : ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์กรุงศรี SME
จากการประชุม World Economic Forum ปี 2024 ที่ได้มีการจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15-19 มกราคม 2567 ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมา โดยงานนี้ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้นำจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ท้าทายโลกในปัจจุบัน
ซึ่งในปีนี้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นหัวข้อสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างมาก สามารถพูดได้ว่าปีนี้เป็นปีแห่ง AI อย่างแท้จริง โดยมองว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึงการเติบโตและการพัฒนาของ AI ในระดับสากล แต่ยังชี้ให้เห็นว่า AI สามารถเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจในทุกระดับ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ซึ่งในยุคปัจจุบัน การเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้นอย่างมาก ด้วยเครื่องมือและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก AI ได้ สิ่งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจ SMEs ที่กำลังปรับตัวเพื่อแข่งขันในยุคดิจิทัล การเข้าถึง AI ที่ง่ายขึ้นในยุคปัจจุบันทำให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการเติบโต โดย AI ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
การเริ่มต้นใช้ AI ในธุรกิจ SMEs ควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาทำความเข้าใจว่า AI สามารถช่วยเหลือธุรกิจของคุณอย่างไรได้บ้าง แล้วจึงเลือกใช้เครื่องมือ AI ที่เหมาะสมกับความต้องการและขนาดของธุรกิจ เพราะนั่นคือกุญแจสำคัญในการเริ่มต้น
และอาจเริ่มต้นจากด้านใดด้านหนึ่งก่อน เพื่อเป็นการเรียนรู้และนำมาเป็นเคสตัวอย่างให้แต่ละส่วนงานนำไปเป็นแรงบันดาลใจและเห็นถึงศักยภาพของ AI ในการยกระดับให้กับธุรกิจได้จริง ซึ่ง AI สามารถนำมาใช้ในธุรกิจ SMEs ในด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้
1.การนำ AI มาช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะในการจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ตลาด ด้วยการใช้ AI ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและตลาดได้ด้วยความแม่นยำและความเร็วที่สูงขึ้น นอกจากนี้ AI ยังช่วยในการทำนายแนวโน้มและการคาดการณ์ความต้องการของตลาด ทำให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที
2.การใช้ AI ในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดและการขาย การใช้เครื่องมือ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าช่วยให้ธุรกิจ SMEs สามารถเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่น ระบบแนะนำสินค้าสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการขายโดยการเสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องหรือที่ลูกค้าอาจสนใจ นอกจากนี้ AI ยังช่วยในการสร้างแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็ว
3.ใช้ในการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า โดย AI ช่วยให้ธุรกิจ SMEs สามารถสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและเฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าได้ การวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าได้ดีขึ้น ทำให้สามารถปรับปรุงบริการและผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของพวกเขา นอกจากนี้ AI ยังสามารถใช้ในการสนับสนุนลูกค้า อาทิ การใช้ Chatbots ที่สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ทันทีและตลอดเวลา
4.AI ช่วยให้ธุรกิจ SMEs บริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การคาดการณ์ความต้องการสินค้า การจัดการสินค้าคงคลัง ไปจนถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนและการจัดสรรทรัพยากร การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกช่วยให้ธุรกิจสามารถทำการตัดสินใจที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ AI นำเสนอโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ SMEs ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ดังนั้น การใช้ AI อย่างชาญฉลาดและเป็นระบบจะช่วยให้ธุรกิจ SMEs สามารถเติบโตและแข่งขันในโลกยุคใหม่ได้อย่างแน่นอน
