สภาพัฒน์ เผยผลสำรวจ ชี้ “เน็ตช้า-ราคาแพง” หลังควบรวมค่ายมือถือ

มือถือ

สภาพัฒน์ชี้ผลการควบรวมกิจการโทรคมนาคม ยังมีปัญหาคุณภาพสัญญาณ-ค่าบริการแพง แนะ กสทช.กำกับดูแลชัดเจน-เข้มขึ้น ขณะที่สินค้าปลอมระบาดท้องตลาด

วันที่ 4 มีนาคม 2567 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภาวะสังคมไทยไตรมาส 4/2566 และภาพรวมปี 2566 โดยมีสถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ ถึงประเด็นที่ต้องติดตามและให้ความสำคัญในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ในภาพรวมปี 2566 การร้องเรียนของผู้บริโภคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

โดยไตรมาส 4 ปี 2566 การร้องเรียนด้านสินค้าและบริการผ่าน สคบ.ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 15.2% โดยประเด็นด้านสินค้าและบริการที่มีการร้องเรียนสูงสุดคือ ด้านฉลาก และการร้องเรียนในกิจการโทรคมนาคมผ่านสํานักงาน กสทช.ลดลง 14.1% ที่ส่วนใหญ่ยังคงมาจากบริการกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่

สําหรับปี 2566 การร้องเรียนโดยรวมเพิ่ม 42.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก สคบ. โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าและบริการ และผู้ประกอบการ ทั้งนี้ มีประเด็นที่ต้องติดตามและให้ความสําคัญ 2 ประเด็นคือ

1.ผลกระทบของผู้บริโภคหลังการควบรวมกิจการโทรคมนาคม ที่ส่งผลให้ราคาค่าบริการรายเดือนของโทรศัพท์มือถือปรับตัวเพิ่มขึ้น และบางโปรโมชั่นยังถูกลดนาทีค่า โทร.ลง อีกทั้งผู้บริโภคยังประสบปัญหาด้านคุณภาพสัญญาณ โดยเฉพาะปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ต

ดังนั้น สํานักงาน กสทช.ควรมีการทบทวน/เพิ่มเติมแนวทางการกํากับดูแลที่ชัดเจนและเข้มข้นมากขึ้น อาทิ การกําหนดเพดาน/ควบคุมราคาของอัตราค่าบริการเฉลี่ยให้เหมาะสม ตลอดจนมีมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่อย่างจริงจัง

2.สินค้าปลอมและสินค้าไม่ได้มาตรฐานระบาดในท้องตลาด จากรายงานการแจ้งความทางออนไลน์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม-31 ธันวาคม 2566 พบว่าเกือบ 50% ของคดีทั้งหมด 177,652 เรื่อง เป็นเรื่องถูกหลอกลวงให้ซื้อขายสินค้าหรือบริการมากที่สุด โดยเฉพาะปัญหาสินค้าปลอม และสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

ดังนั้น ผู้บริโภคควรระมัดระวังหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ราคาถูกผิดปกติ หรือมาจากร้านค้า/แหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านสาธารณสุข และด้านสืบสวนต้องมีการตรวจสอบแหล่งผลิต จําหน่าย และนําเข้าสินค้าอย่างเข้มงวดมากขึ้น ตลอดจนให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง