ระเฑียร ตั้งเป้าปี’67 รายได้ XSpring พันล้าน

ระเฑียร ศรีมงคล

“ระเฑียร” ตั้งเป้าปี 2567 รายได้ XSpring แตะ 1,000 ล้าน เติบโต 47% ครบรอบ 50 ปี ประกาศยุทธศาสตร์ธุรกิจ ทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งใหญ่ ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร ตั้งเป้าเป็นตัวกลางให้ภาคธุรกิจต้องการเงินทุน-นักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่ยั่งยืน

วันที่ 13 มีนาคม 2567 นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XSpring เปิดเผยว่า

ปี 2567 ถือเป็นปีที่ XSpring ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 50 นับจากก้าวแรกของการให้บริการด้วยการก่อตั้ง บริษัท โอเวอร์ซีส์ ซิคิวริตี้ส์ แอนด์ อิสดัสเตรียล คอนเซาส์เทอน จำกัด ให้บริการนายหน้าค้าหลักทรัพย์ กิจการค้าหลักทรัพย์และกิจการที่ปรึกษาการลงทุน จนกระทั่งได้ทำการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจโดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ในปี 2564

โดยปีนี้ถือเป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญแห่งการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “Lessons Learned for Better Tomorrow เรียนรู้และพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรสำหรับนักลงทุน และผู้ต้องการเงินทุน ภายใต้ Ecosystem ของบริษัท

ในปี 2567 XSpring ได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2566 สูงกว่า 47% เป็นผลจากการขับเคลื่อนภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

โดยปี 2566 บริษัทประกาศผลการดำเนินงานมีรายได้รวม 681.1 ล้านบาท รายได้หลักที่เป็นตัวผลักดันธุรกิจในปี 2566 ของบริษัทมาจากหลายด้าน ทั้งรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่สูงถึง 505.7 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการอยู่ที่ 87.2 ล้านบาท และรายได้จากเงินลงทุน 75.7 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 106.09 ล้านบาท

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ XSpring กล่าวว่า บริษัทได้สร้าง Ecosystem ของกลุ่มเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ครอบคลุมด้วยบริการทางการเงิน 6 ธุรกิจ แยกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1. บริการทางการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเงินทุน ประกอบด้วย

– บริการด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุนครบวงจรด้วยความเชี่ยวชาญ ครอบคลุมการควบรวมกิจการ การฟื้นฟูและปรับโครงสร้างกิจการ การออกตราสารหนี้ การระดมทุนทั้งในรูปแบบการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการระดมทุนแบบดิจิทัลด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านระบบบล็อกเชนต่อสาธารณชน (ICO)

– ธุรกิจสินเชื่อ (Debt Financing) ส่งเสริมและสนับสนุนด้านการเงินให้กับบริษัทที่มีศักยภาพสูง ต่อยอดและพัฒนาให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการปล่อยกู้ตรงจากบริษัทฯ และการปล่อยกู้ผ่านตราสารหนี้ (หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน และตั๋วสัญญาใช้เงิน) และตราสารหนี้นอกตลาด (Private Credit)

2. บริการทางการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการลงทุน ประกอบด้วย

– ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ให้บริการสินค้าด้านการลงทุนที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือกแบบครบวงจร ทั้งจากพันธมิตร บลจ. รวม 16 แห่ง และกองทุนต่าง ๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท เช่น กองทุนส่วนบุคคลประเภท Private Equity Real Estate

– ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล (Brokerage) ให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล

3. ธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัทเอ็กซ์สปริง ประกอบด้วย

– ธุรกิจการลงทุน (Investment) มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจ ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อผลตอบแทนสูงสุด โดยแบ่งการลงทุนใน 3 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Customer Centric) ธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (ESG)

โดยปัจจุบัน XSpring ได้เข้าไปถือหุ้นในสตาร์ตอัปที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เช่น บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีชาร์จภายใต้แบรนด์ REVERSHARGER และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ธุรกิจพลังงานสะอาดโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นต้น

– ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Distressed Asset Management) อีกหนึ่งธุรกิจของกลุ่ม XSpring ที่ได้ดึงเอาจุดแข็งจากการมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มผู้ถือหุ้นและผู้บริหารสร้างความได้เปรียบในการวางกลยุทธ์การคัดเลือกทรัพย์คุณภาพ

โดยในปีที่ผ่านมา XSpring บริหารพอร์ตหนี้แล้วกว่า 4,000 ล้านบาท ทั้งหนี้สินเชื่อทั่วไปแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน รวมทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ โดยได้จับมือกับ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้นำด้านบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในการเป็นพันธมิตรจัดการขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA)

บริการทั้งหมดของ XSpring ขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์ Business Transformation สู่ความเป็นหนึ่งเดียว โดยได้ปฏิรูปกระบวนการทำงาน (Process) การพัฒนาทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (Technology) และการพัฒนาบุคลากร (Human) เพื่อให้เกิดการใช้ Ecosystem จากทุกทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยขน์สูงสุดด้วยการทำ Customer Data Integration มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

เพื่อให้ XSpring เป็นตัวกลางระหว่างภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนสำหรับต่อยอดธุรกิจ และนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงินอย่างแท้จริง โดยในปีนี้ได้วางแผนปล่อยแอปพลิเคชัน XSpring แพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับประสบการณ์ด้านการลงทุนให้กับลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ XSpring ยังมุ่งมั่นดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อให้องค์กรและสังคมเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยนอกจากจะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรแล้ว บริษัทยังเข้าไปถือหุ้นในกลุ่มสตาร์ตอัพที่ดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนหลายแห่งในปี 2566

บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงิน และได้วางแผนการส่งต่อความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน (Financial Literacy) ที่มีประสิทธิภาพไปสู่สังคมในวงกว้าง เพื่อช่วยยกระดับการเข้าถึงเครื่องมือในการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลอย่างเท่าเทียม ภายใต้โครงการ “PLAY TO WIN”

ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย (ONE Championship) และ สนามมวยเวทีลุมพินี โดยศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก เพื่อให้ความรู้ด้านการเงินและการวางแผนทางการเงินแก่นักมวยและบุคลากรในวงการมวย พร้อมยกระดับวงการกีฬาไทยด้วยองค์ความรู้ที่จะนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

โดยโครงการนี้จะจัดขึ้นต่อเนื่องทุก ๆ ปีเพื่อขยายไปสู่ทุกประเภทกีฬา และในกลุ่มเปราะบางทางการเงินอื่น ๆ ซึ่งในปี 2567 นี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่องด้วยการส่งเสริมศักยภาพทางการเงินการลงทุนให้กับผู้พิการหรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้มีความรู้ด้านการเงินและสามารถป้องกันถูกการหลอกลวงทางการเงินได้อีกด้วย

XSpring ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่ดี เป็นธรรม และรับผิดชอบต่อสังคม โดยเน้นความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจเพื่อนำพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่รุนแรง เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น ลูกค้า ผู้ลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย รวมถึงเพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนจากการลงทุนผ่านบริษัทในเครือ ดังนี้

1. บริษัท กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน))-ธุรกิจหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ
2. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์ปริง จำกัด-ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน
3. บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง จำกัด-ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ
4. บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด-ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล