กากแคดเมียมเป็นเหตุ ทริสเรทติ้ง ประกาศเครดิตพินิจ “BEYOND” เป็นลบ

แคดเมียม กากแคดเมียม

ทริสเรทติ้ง ประกาศเครดิตพินิจ “Negative” อันดับเครดิตองค์กร “เบาด์ แอนด์ บียอนด์” ปมมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์กากแคดเมียม ส่อสร้างความเสี่ยงทางกฎหมายต่อบริษัท รวมถึงผลกระทบเชิงลบด้าน ESG

วันที่ 18 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทริสเรทติ้ง ได้ประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” ให้กับอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND ซึ่งอยู่ที่ระดับ “BB” โดยการประกาศเครดิตพินิจในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่บริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์กากแคดเมียม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงทางกฎหมายต่อบริษัท และอาจมีผลกระทบในเชิงลบเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance Management-ESG) ของบริษัท

บริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การขายและการขนส่งกากแคดเมียม โดยบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายกากแคดเมียมกับ บริษัท เจ แอนด์ บี เมทัล จำกัด เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ภายใต้สัญญาซื้อขายกากแคดเมียม บริษัท เจ แอนด์ บี เมทัล จะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการขนส่งและกำจัดกากแคดเมียมให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบทางราชการที่เกี่ยวข้อง บริษัทในฐานะตัวแทนของบริษัท เจ แอนด์ บี เมทัล ได้ขออนุญาตและได้รับอนุญาตจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตากให้ขนส่งกากแคดเมียมที่ฝังกลบในที่ดินของบริษัทในจังหวัดตากไปยังโรงงานหลอมโลหะของบริษัท เจ แอนด์ บี เมทัลในจังหวัดสมุทรสาคร โดยกากแคดเมียมได้ถูกขุดจากหลุมฝังกลบและขนส่งไปยังจังหวัดสมุทรสาคร

อย่างไรก็ตาม บริษัท เจ แอนด์ บี เมทัลไม่ได้ทำการกำจัดกากแคดเมียมดังกล่าว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังพบกากแคดเมียมถูกลักลอบจัดเก็บอยู่ในหลายพื้นที่ทั้งในจังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร

แม้ว่าผลกระทบทางการเงินของบริษัทจากต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและนำกากแคดเมียมกลับไปฝังกลบ ตลอดจนความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นในการขายที่ดินในจังหวัดตากจะยังไม่กระทบต่ออันดับเครดิตที่ระดับปัจจุบันของบริษัท แต่ทริสเรทติ้งมีความกังวลต่อพัฒนาการของเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ทริสเรทติ้งจะติดตามสถานการณ์และทบทวนเครดิตพินิจเมื่อมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งจะทำให้สามารถประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อสถานะเครดิตของบริษัทได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น