ธปท.ชี้ต้องปฏิรูปกำกับแบงก์ เอื้อทำดิจิทัลแบงก์กิ้ง-หนุนปล่อยกู้SMEเพิ่ม

ธปท.ขอ4เดือนทบทวนร่วมสถาบันการเงินแก้เกณฑ์กำกับแบงก์ เอื้อแบงก์ทำดิจิทัลแบงก์กิ้ง ปล่อยกู้เอสเอ็มอีได้คล่องขึ้น หวังช่วยเอสเอ็มอีลดต้นทุน-ลดอุปสรรคปล่อยกู้

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ 1 มิ.ย จนถึง สิ้นก.ย. 2561(4เดือน) โดยธปท.จะมีการทบทวน หรือปฏิรูปกฏเกณฑ์การกำกับสถาบันการเงิน ประเด็นแรก คือปฏิรูปกฏเกณฑ์ที่เกี่ยวกับธุรกรรมที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือดิจิทัลของธนาคารพาณิชย์มากขึ้น
หรือแก้เกณฑ์เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถไปลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆได้มากขึ้น เพื่อลดอุปสรรคในการทำธุรกรรมหรือออกนวัตกรรมทางการเงินขอสถาบันการเงินในอนาคต ซึ่งจะส่งการแก้กฏเกณฑ์การกำกับจะส่งเสริมให้สถาบันการเงินปรับตัวไปสู่ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ หรือดิจิทัลแบงกิ้งได้สมบูรณ์แบบในอนาคต และสามารถออกหรือผลิตนวัตกรรมใหม่ๆหรือการปล่อยกู้แบบใหม่ๆเช่น peer-to-peer lending ได้

อีกด้าน คือการปฏิรูป ด้านการกำกับเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ ให้กับธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี เพราะการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี ในปัจจุบันนี้ มีต้นทุนสูง เพราะต้นทุนการพิสูจน์ตัวตน การทำหลักประกันต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยขั้นตอนค่อนข้างมาก

นอกจากนี้การปฏิรูปการกำกับด้านนี้ ยังต้องดูเพิ่มเกี่ยวกับการกำกับด้านการบริหารความเสี่ยงต่างๆของเอสเอ็มอี หรือการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ว่าหากเกิดความเสี่ยงหรือเอ็นพีแอลเกิดขึ้น จะจัดการกับทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันอย่างไร

ดังนั้นธปท.จึงต้องหารือ และทบทวนการปฏิรูปการกำกับร่วมกับสถาบันการเงิน และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกณฑ์กำกับในอนาคตจะสอดคล้องกับบริบท หรือการดูแลความเสี่ยงที่รอบด้านมากขึ้น

“เราจะทำงานร่วมกับกับสภาบันการเงิน กับภาคธุรกิจ เพื่อเอ็กเรย์กฏเกณฑ์ต่างๆ ที่มีให้สอดคล้องกับการทำธุรกรรมในสมัยปัจจุบัน และมีอะไรบ้างที่อาจไม่จำเป็นเหมือนเมื่อก่อน จากการออกกฎของธปท.ครั้งก่อนๆ ก็ทบทวน ปรับปรุงเพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น และลดต้นทุนการทำธุรกรรมของเอสเอ็มอีก็จะถูกลงได้ในอนาคต”