“ทิพยประกันภัย” โชว์กำไรสุทธิครึ่งปี 920 ล้านบาท ลุยช่องทางดิจิทัล หนุนสตาร์ตอัพ ก้าวสู่เป้าหมาย Digital Insurance

ทิพยประกันภัย เปิดกำไรสุทธิ 6 เดือนแรก ปี2561 กว่า 920.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.66 % เบี้ยประกันภัยรับรวม 8,335.85 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายด้านสินไหมลดลงกว่า 13.42% พร้อมเดินหน้าพัฒนาช่องทางดิจิทัล และสนับสนุนสตาร์ตอัพ เพื่อผลักดันสู่เป้าหมาย Digital Insurance เต็มรูปแบบ

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 450.48 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.75 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 423.79 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.71 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 26.69 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.30% ขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 8,335.85 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น เบี้ยประกันอัคคีภัย 1,140.03 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 132.37 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 1,364.54 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล 3,442.03 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 2,256.88 ล้านบาท

ขณะที่กำไรสุทธิสะสมงวด 6 เดือนแรก (1 ม.ค.-30 มิ.ย. 61) จำนวน 920.24 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.53 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 877.73 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.48 บาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 32.51 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.66% ส่วนสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 45,625.60 ล้านบาท หนี้สินรวม 38,068.64 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 7,556.96 ล้านบาท

นายสมพรกล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทสามารถบริหารงานภายในอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะด้านการชดเชยค่าสินไหมและค่าใช้จ่ายในการจัดการสินไหมที่ลดลงกว่า 13.42 % มาอยู่ที่ 1,114.50 ล้านบาท รวมถึงการขยายฐานลูกค้า ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรจากการรับประกันภัยก่อนหักค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น 4.58% หรืออยู่ที่ 1,295.78 ล้านบาท

“ทิพยประกันภัยได้บริหารจัดการต้นทุนด้านการจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่รวดเร็ว และถูกต้องเป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาล ขณะเดียวกันได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดี ส่งผลให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย” นายสมพรกล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตนั้น บริษัทได้พัฒนาช่องทางดิจิทัลและแอปพลิเคชันเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและตอบสนองความต้องการได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ “TIP InsureM” เพื่อช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดจากอุบัติเหตุ ที่ต้องรอพนักงานสำรวจภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน โดยสามารถใช้ฟังก์ชันเคลมประกัน “Tip Flash Claim” ทำเคลมได้ด้วยตัวเองทันทีกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงฟังก์ชันอื่นๆ ที่หลากหลาย อาทิ ซื้อประกันภัยรถยนต์, ประกันเดินทาง, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันอัคคีภัย หรือการต่ออายุประกัน, การชำระเงิน, ดูข้อมูลต่างๆในกรมธรรม์ของตัวเองทุกกรมธรรม์ที่มีอยู่กับบริษัท หรือตรวจสอบความคุ้มครอง

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันในเรื่องการค้นหาสาขาของทิพยประกันภัย อู่ซ่อมรถ หรือโรงพยาบาล สามารถทำได้โดยใช้การค้นหาเป็นระบบ AR ส่องไปยังทิศทางที่เราต้องการ ระบบก็จะแจ้งสถานที่ให้ทันที ทำให้ลูกค้ามีความสะดวกยิ่งขึ้น

นายสมพรกล่าวเพิ่มเติม ในส่วนของ”สตาร์ตอัพ” ที่เข้ามามีบทบาทในธุรกิจประกันภัย ทั้งในส่วนที่เป็นการขายกรมธรรม์ และการให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ที่ผ่านมาบริษัทก็มีแผนสนับสนุนสตาร์ตอัพหลายราย โดยได้เข้ามาร่วมพัฒนาธุรกิจหรือบริการ ด้านการประกันภัยในรูปแบบดิจิทัล โดยทิพยประกันภัยพร้อมที่จะให้ความรู้ด้านเทคนิค กฏระเบียบ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจประกันภัย รวมทั้งเป็นห้องทดลองให้สตาร์ทอัพมาทดลองเชื่อมต่อ ใช้งานกับระบบงานต่างๆ เพื่อยกระดับบริการเป็น Digital Insurance อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย