“เจพีประกัน” เจาะ 4 ช่องทาง ผูก “เจมาร์ท-โบรกมาสิ” ปั๊มเบี้ยแก้ขาดทุน

เจพี ประกันภัย เปิดแผนครึ่งปีหลังบุก 4 ช่องทาง ปูพรมทั้งผูกขายประกันผ่าน บ.แม่ “เจมาร์ท” โบรกเกอร์มาสิดอทคอม จับลูกค้ากลุ่มองค์กร จัดแพ็กเกจประกัน และช่องทางออนไลน์ เร่งทรานส์ฟอร์มตัวเองขึ้นเป็น “อินชัวร์เทค” พร้อมทยอยออกโปรดักต์ใหม่

นายฉัตรชัย ธนาฤดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เจพี ประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเจมาร์ท เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทิศทางธุรกิจประกันของบริษัทในครึ่งปีหลังนี้ จะรุกทั้งช่องทางดิจิทัล โดยทำกลยุทธ์ทางการตลาดผ่านเครือบริษัทแม่ คือ เจมาร์ท และโบรกเกอร์ประกันมาสิดอทคอม ในการขายโปรดักต์ประกัน และอีกช่องทางจะเป็นแบบเดิม (traditional) ซึ่งจะเน้นสร้างโปรดักต์ใหม่ ๆ ออกมาขาย และอีกช่องทางจะเป็นลักษณะ B to B (business to business) ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มองค์กร และช่องทางสุดท้าย คือ B to C ซึ่งเป็นการทำผ่านออนไลน์ ขณะนี้กำลังพัฒนาเทคโนโลยี และอยู่ระหว่างรอ คปภ.อนุมัติ ซึ่งจะมี 3 โปรดักต์ทยอยออกมา

“ในส่วนของ B to B ผมจะคุยกับลูกค้าที่เป็นองค์กรโดยตรง จะเป็นลักษณะเข้าไปรีสตรักเจอร์โปรดักต์ประกันภัยที่เขามีอยู่ เพื่อให้เขาจ่ายประกันต่าง ๆ น้อยลง แต่ยังได้รับความคุ้มครองที่เท่าเดิม หรือกลับกัน เขาจ่ายเท่าเดิม แต่ได้รับความคุ้มครองที่ดีขึ้น เป็นต้น เราเข้าไปทำให้เขามีเป้าหมายก็เพื่อลดต้นทุนการทำประกันให้ลูกค้า ซึ่งปกติองค์กรหนึ่ง ๆ จะมีซื้อประกันเยอะมาก มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้สูง ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพกลุ่ม ประกันอุบัติเหตุ ประกันอัคคีภัยให้กับตึกและคลังสินค้าตัวเอง ซึ่งจะเห็นว่าทำประกันเยอะมากในปีหนึ่ง ๆ ตอนนี้เราก็ใช้ช่องทาง B to B เจาะกลุ่มลูกค้าด้านโลจิสติกส์” นายฉัตรชัยกล่าว

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวประกันภัยสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% (electric vehicle) โดยเริ่มจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น “บีวายดี อีซิกซ์” (BYD e6) จำนวน 101 คัน เพื่อใช้สำหรับภาคขนส่งสาธารณะครั้งแรกในประเทศไทย ในโครงการ Taxi VIP ของกรมการขนส่งทางบก ภายใต้ชื่อ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” (EV Taxi VIP) ซึ่งจะเริ่มให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2561 เป็นต้นไป

สำหรับเป้าหมายผลดำเนินงาน นายฉัตรชัยกล่าวว่า บริษัทต้องการพลิกฟื้นกำไรกลับมาอีกครั้ง หลังจากปัจจุบันมีขาดทุนสะสม ซึ่งขอไม่เปิดเผยตัวเลข สำหรับพอร์ตประกันภัยรถ (มอเตอร์) ของบริษัทอยู่อันดับที่ 10 ส่วนประกันน็อนมอเตอร์อยู่อันดับที่ 3 ของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของบริษัทต้องการทรานส์ฟอร์มตัวเองให้เป็นบริษัทอินชัวร์เทค โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขอ คปภ. เกี่ยวกับการอนุมัติใบอนุญาตขายประกันผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ และจะพัฒนากรมธรรม์รูปแบบ e-Policy ในแอปพลิเคชั่นเวอร์ชั่นใหม่ เพื่อเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้ามาดูกรมธรรม์ของตนเองได้ตลอดเวลา