ค่าเงินบาทและสกุลเงินเอเชียแข็งค่า หลังจีน-สหรัฐตกลงเจรจาการค้าอีกครั้ง

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (1/7) ที่ระดับ 30.65/67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (28/6) ที่ระดับ 30.66/68 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ตกลงที่จะสงบศึกการค้าชั่วคราว ในการเจรจานอกรอบการประชุม G20 ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเริ่มหารือด้านการค้าอีกครั้งบนพื้นฐานของความเท่าเทียม และความเคารพซึ่งกันและกัน ขณะที่สหรัฐระบุว่า จะไม่เพิ่มการเก็บภาษีใหม่กับสินค้าส่งออกของจีน และบริษัทสหรัฐสามารถขายอุปกรณ์ให้กับหัวเว่ยเพื่อช่วยลดสถานการณ์ตึงเครียดกับจีน ในขณะที่ ปธน.สี จิ้นผิง ได้ตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ สำหรับปัจจัยในประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย. ขยายตัว 0.87% จากตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 1% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ขยายตัว 0.48%

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับลดเงินเฟ้อปี 62 เหลือ 1% ในกรอบ 0.7-1.3% จากเดิม 1.2% ซึ่งอยู่ในกรอบ 0.7-1.7% เนื่องมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีแนวโน้มลดลงจากแรงกดดันทางการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.51-30.69 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.57/58 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (1/7) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1354/58 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์  (28/6) ที่ระดับ 1.1386/87 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยผลสำรวจพบว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตขั้นปลายของไอเอชเอส มาร์กิตอยู่ในระดับ 47.6 ลดลงจาก 47.7 ในเดือน พ.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ผ่อนคลายนโยบายการเงิน ขณะที่สะท้อนถึงแรงกดดันต่อเงินเฟ้อที่ลดลงด้วย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1316-1.1375 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1330/33 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (1/7) เปิดตลาดที่ระดับ 108.20/23 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (28/6) ที่ระดับ 107.65/68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 2 ลดลงสู่ระดับ +7 จากระดับ +12 ในไตรมาส 1 อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ +9 ซึ่งสะท้อนถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.11-108.83 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.24/27 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มิ.ย.จากมาร์กิต (1/7) ดัชนีภาคการผลิตเดือน มิ.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) (1/7) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน มิ.ย. จาก ADP (3/7) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (3/7) ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน พ.ค. (3/7) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน มิ.ย. จากมาร์กิต (3/7) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. (5/7)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.5/-2.3 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -42/-2.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ