บสย.ลุยค้ำเอสเอ็มอี 1.5 แสนล. ชู PGS8 หนุนสภาพคล่องธุรกิจ

บสย.แท็กทีม 18 แบงก์ปล่อยกู้เอสเอ็มอีฝ่ามรสุมเศรษฐกิจชะลอ เปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อใหม่ “PGS8” วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เฟสแรกจัด 5.7 หมื่นล้านบาท 5 โครงการ หวัง “เติมลมหายใจ-เพิ่มสภาพคล่อง-เสริมโอกาส” ผู้ประกอบการ ด้านธนาคารกรุงไทยควัก 5 หมื่นล้านบาท จัดแพ็กเกจใหญ่ 11 ประเภทสินเชื่อ อุ้มเอสเอ็มอีทุกกลุ่มทุกขนาดคิดดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% พ่วงฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 4 ปีแรก

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้จัดลงนามร่วมกับสถาบันการเงิน 18 แห่ง ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการค้ำประกันสินเชื่อ portfolio guarantee scheme ระยะที่ 8 (PGS8) ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อรักษาสภาพคล่อง รวมถึงการลงทุนในอนาคตด้วย

“การที่ บสย.ค้ำประกันให้กับ SMEs ก็จะเพิ่มความหน้าเชื่อถือให้กับธุรกิจ และอัตราดอกเบี้ยก็จะมีความพิเศษ อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร แต่เบื้องต้นขั้นต่ำจะอยู่ที่ 4% ซึ่งเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยระดับนี้จะสามารถทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทำธุรกิจได้ดีขึ้น” นายสันติกล่าว

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานกรรมการ บสย. กล่าวว่า ล่าสุด บสย.ได้เปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อใหม่ PGS8 มีวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 150,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้คล่องตัวมากขึ้น รวมถึงลดการพึ่งพาเงินนอกระบบ

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 5.2 ล้านราย แต่ที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้จริง ๆ เพียง 10% หรือ 1.2 ล้านรายเท่านั้น ที่เหลืออีกกว่า 4 ล้านราย หากเราสามารถช่วยให้ SMEs กลุ่มนี้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ก็จะส่งผลดีและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งมั่นใจว่าโครงการ PGS8 จะช่วย SMEs ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากมีจุดเด่นหลายประการ อาทิ ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี, วงเงินค้ำประกันต่อรายที่สูงขึ้นไม่เกิน 100 ล้านบาท (รวมทุกสถาบันการเงิน) จากเดิม 40 ล้านบาท

ทั้งนี้ การค้ำประกัน PGS8 จะสิ้นสุดโครงการ ธ.ค. 2563 โดยได้จัดสรรวงเงินในเฟสแรก 57,000 ล้านบาท ใน 5 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ บสย. SMEs ดีแน่นอน วงเงิน 40,000 ล้านบาท ยกเว้นค่าธรรมเนียม 2 ปี 2.โครงการ บสย. SMEs สหกรณ์ วงเงิน 2,000 ล้านบาท ยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 ปี 3.โครงการ บสย. SMEs บัญชีเดียว วงเงิน 10,000 ล้านบาท ยกเว้นค่าธรรมเนียม 2 ปี ปีที่ 3-4 จ่าย 1% 4.โครงการ บสย. SMEs LG วงเงิน 3,000 ล้านบาท ยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 ปี และ 5.โครงการ บสย. SMEs Supply Chain Franchise วงเงิน 2,000 ล้านบาท ยกเว้นค่าธรรมเนียม 2 ปี ปีที่ 3 จ่าย 1%

“ประเมินว่าจะช่วย SMEs ให้ได้รับสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 4.3 หมื่นราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินไม่ต่ำกว่า 2.25 แสนล้านบาท และก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 6.87 แสนล้านบาท รวมถึงจะช่วยผลักดันยอดค้ำประกันของ บสย.ในปี 2562 ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1 แสนล้านบาทได้”

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ออกแพ็กเกจ “กรุงไทย SME เคียงข้างธุรกิจคุณ” ด้วยเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้นเพียง 4% ต่อปี โดยสนับสนุนสินเชื่อครอบคลุมลูกค้า SMEs ทุกกลุ่ม ทุกขนาด วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ทั้งผู้ประกอบการ SMEs ขนาดเล็กที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท วงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท และผู้ประกอบการ SMEs ขนาดกลางที่มียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาท หรือวงเงินกู้มากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้ กรณีใช้ บสย.ค้ำประกัน จะยกเว้นค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีแรก และธนาคารช่วยแบ่งเบาภาระค่าธรรมเนียมให้อีก 2 ปี รวมยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ปี

“การที่มี บสย.เข้ามาช่วยรับประกันความเสี่ยงให้กับธนาคารพาณิชย์ จะทำให้แบงก์ตัดสินใจปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีได้ง่ายขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่อาจจะมีลูกค้าบางกลุ่ม เช่น ที่มีหลักประกันน้อย หรือไม่มีหลักประกัน เป็นต้น ที่ธนาคารลังเลที่จะปล่อยสินเชื่อให้”