ออมสินเตรียมเปิดรับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตทุกค่าย หนุนลูกหนี้วินัยดีลดภาระแบบไม่จำกัดจำนวนบัตร เล็งตีกรอบวงเงินหนี้บัตรเดิมรายละไม่เกิน 1 แสนบาท เปิดทางผ่อนขั้นต่ำแค่ 3% นาน 5 ปี ชงบอร์ด 17 ธ.ค.นี้
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารมีแนวคิดจะทำโครงการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รับรีไฟแนนซ์ ลดดอก ขยายเวลากู้ ลดเปอร์เซ็นต์ผ่อนชำระขั้นต่ำ” โดยจะเสนอคณะกรรมการธนาคาร 17 ธ.ค.นี้ ซึ่งเรื่องนี้สืบเนื่องมาจาก นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้หารือกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงแนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิตที่มีประวัติผ่อนชำระดี แต่เริ่มประสบปัญหาการผ่อนชำระ จึงอยากให้ธนาคารพิจารณาว่า จะแบ่งเบาภาระคนชั้นกลางที่ถือบัตรเครดิตได้อย่างไร
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ทั้งนี้ หลักการเบื้องต้น คือ ออมสินจะรับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตทั้งจากธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (น็อนแบงก์) โดยจะผ่อนปรนอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ จากปัจจุบัน 10% ของวงเงินใช้จ่าย เหลือเพียง 3% และขยายระยะเวลาเงินกู้นานถึง 5 ปี ซึ่งจะกำหนดให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ “ยกเลิกบัตรเครดิตเดิม” เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถือบัตรนั้นสร้างหนี้ใหม่ อย่างไรก็ดี ผู้เข้าร่วมโครงการไม่จำเป็นต้องยกเลิกบัตรเครดิตทุกใบ แต่สามารถยกเลิกเฉพาะบัตรที่ต้องการรีไฟแนนซ์กับธนาคารเท่านั้นก็ได้ และธนาคารไม่ได้จำกัดจำนวนบัตรที่จะเข้าร่วม
“ขณะเดียวกันธนาคารยังจะช่วยลดดอกเบี้ยให้กับผู้ถือบัตรที่เข้ามารีไฟแนนซ์กับธนาคารด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาโดยธนาคารอาจจะลดลงให้เหลือ 12% ส่วนวงเงินในการขอเข้าร่วมของผู้ถือบัตรนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป แต่อาจจะไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่ต้องการจะเข้ารีไฟแนนซ์โครงการดังกล่าว จะต้องเป็นลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดี ผ่อนดี 12 เดือน และไม่ติดเครดิตบูโร”
นายชาติชายกล่าวว่า ปัจจุบันบัตรเครดิตของออมสินที่เปิดตัวไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน มียอดบัตรแล้ว 4 แสนใบ วงเงินการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเฉลี่ย 5 หมื่นบาทต่อบัตร หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลมียอดบัตรแล้ว 2 แสนใบ วงเงินการใช้จ่ายเฉลี่ย 3-4 หมื่นบาทต่อบัตร หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในกลุ่มบัตรดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 3-4% ถือว่าไม่ได้สูงมาก