ธปท.จี้แบงก์ “รัฐ-เอกชน” ส่งแผนปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อย “อย่างรับผิดชอบ” ภายในไตรมาสแรกปีนี้ ส่องวิธีคิด DSR แต่ละแบงก์-หวังสร้างมาตรฐานเดียวกัน ฟากแบงก์ขานรับพร้อมส่งข้อมูล
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภายในไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ปีนี้ ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) จะต้องส่งแผนการปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย รองรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (responsible lending) ให้ ธปท. โดยเรื่องสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ (DSR) จะเป็นส่วนหนึ่งในแผนนี้ ซึ่งตั้งแต่กลางปี 2562 ที่ผ่านมา ธปท.ได้ตกลงกับแบงก์ให้นิยาม DSR ไปในทิศทางเดียวกัน และเริ่มให้มีการส่งข้อมูล DSR มาให้ ธปท.พิจารณา ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2562 เพื่อดูการคิด DSR ของแต่ละธนาคาร ซึ่งหากแบงก์ใดสูงหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งระบบ ก็อาจจะต้องปรับปรุงต่อไป
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“ตอนนี้ เรามีการหารือรายธนาคาร โดยนอกจากดูความสามารถการชำระหนี้แล้ว อาจจะต้องดูว่าลูกหนี้มีเงินเหลือต่อการใช้ชีวิตหรือไม่ เพราะเป็นสิ่งที่แบงก์จะต้องคำนึงถึงนอกจากความเสี่ยงทางเครดิต หรือหากดูแล้วธนาคารที่มี DSR สูงกว่าแบงก์อื่น ๆ แต่เขามีมาตรการดูแลลูกหนี้ภายใต้เงื่อนไขอื่น ๆ ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ ซึ่งเราขอเวลาดูวิธีที่แบงก์คำนวณออกมาว่าใครสูง ใครต่ำกว่าระบบ และเราจึงจะมาปรับแก้ ตรงไหนเปราะบาง โดยตอนนี้ ธปท.ยังไม่ได้มีเกณฑ์กำหนด DSR ว่าเท่าไร แต่เราติดตามใกล้ชิด” นายรณดลกล่าว
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ตอนนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบตามที่ ธปท. ให้ธนาคารกลับมาจัดทำ แต่อย่างไรก็ตาม การปล่อยสินเชื่อ ธนาคารจะพิจารณา DSR อยู่แล้ว เพื่อให้ลูกค้ามีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีพ
นางสาวอรอนงค์ อุดมก้านตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ตอนนี้ DSR ของธนาคารแต่ละแห่งใช้ไม่เท่ากัน ซึ่ง ธปท.ต้องการให้แบงก์รายงาน เพื่อดูว่าสถาบันการเงินแต่ละแห่งการปล่อยสินเชื่อเป็นอย่างไร เพราะแต่ละประเภทสินเชื่อ ก็คิดไม่เหมือนกัน เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อเช่าซื้อ เฉลี่ยไม่ควรเกิน 40% หรือถ้ารวมสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ภาระหนี้ก็ไม่ควรเกิน 2 ใน 3 ของรายได้ผู้กู้ ซึ่ง DSR จะสูงหรือต่ำจะขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้กู้เป็นหลัก
“การคำนวณ DSR อาจจะพูดยาก เพราะทุกธนาคารมีสูตรคำนวณแตกต่างกัน แต่ทุกคนจะดูถึงศักยภาพของลูกค้า เพราะทั้งระบบแบงก์จะต้องกำกับตัวเองก่อน เพราะหากแบงก์ปล่อยสินเชื่อได้สูง แต่เอ็นพีแอลสูง แปลว่าศักยภาพการปล่อยสินเชื่ออาจจะไม่ได้ดี ดังนั้น ธปท.ต้องการมอนิเตอร์การปล่อยสินเชื่อของแบงก์ และให้แบงก์ดูเรื่องการดำรงชีพของลูกค้าด้วย”